รวบแรงงานต่างด้าวอัดแน่นเต็มรถ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบแรงงานต่างด้าวอัดแน่นเต็มรถ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง.ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง.ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง สว.ส.ทล.6กก.1บก.ทล., พ.ต.ต.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล., ร.ต.อ.อรุณ บุตตะนันท์ รอง สว.(ป) ส.ทล.4 กก.1บก.ทล., ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร, ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล., ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล., ร.ต.ท.กล้วย ชัยพระบาง รอง สว.(ป) ส.ทล.4 กก.1บก.ทล., และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล., ส.ทล.4 กก.1บก.ทล., ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.

ได้ทำการจับกุม

1. นายยิว ​อายุ 27 ปี ​สัญชาติ เมียนมาร์ ผู้ต้องหาที่ 1 (ผู้ขับขี่)

2. นางสาวทุย​อายุ 20 ปี ​สัญชาติ เมียนมาร์ ผู้ต้องหาที่ 2 (ล่ามแปล) มีผู้ติดตามชายชื่อคอง อายุ 13 ปี

3. นางสาวลาว​อายุ 18 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ ผู้ต้องหาที่ 3

4. นางสาวสร้อย​อายุ 64 ปี ​สัญชาติ เมียนมาร์ ผู้ต้องหาที่ 4 มีผู้ติดตามหญิงชื่อ ฟะ อายุ 8 ปี

5. นางสาวหอม​อายุ 62 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ ผู้ต้องหาที่ 5 มีผู้ติดตามชายชื่อ กัน อายุ 6 ปี

6. นางสาวโล่ง​อายุ 50 ปี ​สัญชาติ เมียนมาร์ ผู้ต้องหาที่ 6

7. นางสาวองค์​อายุ 26 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ ผู้ต้องหาที่ 7

8. นายหม่อง​อายุ 25 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ ผู้ต้องหาที่ 8

9. นายอิน​อายุ 66 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ ผู้ต้องหาที่ 9

10. นายปุ้ย​อายุ 19 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ ผู้ต้องหาที่ 10

11. นายเคอ​อายุ 18 ปี ​สัญชาติ เมียนมาร์ ผู้ต้องหาที่ 11

12. นายซัน​อายุ 24 ปี ​สัญชาติ เมียนมาร์ ผู้ต้องหาที่ 12

ผู้ต้องหาที่ 1 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และ  “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ผู้ต้องหาที่ 2-12 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สถานที่จับกุม บริเวณ ทล.11 กม.13-14 ต.ช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทางพื้นที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ได้พบรถตู้ขับขี่ผ่านมาโดยใช้ความเร็วสูงและเปลี่ยนช่องทางกระทันหันไปมาและมีน้ำหนักที่มากว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งสัญญาณไฟเพื่อเรียกให้รถยนต์คันดังกล่าวหยุด รถยนต์คันดังกล่าวจึงหยุดรถที่บริเวณ กม.13-14 ทล.11 ต.ช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตนขอเข้าทำการตรวจสอบ

จากการตรวจสอบ พบนายยิวฯ สัญชาติเมียนมาร์ เป็นผู้ขับขี่ โดยมีผู้ต้องหาที่ 2-12 นั่งโดยสารมาภายในรถตู้คันดังกล่าว โดยเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการจับกุมและควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตาคลี ภ.จว.นครสวรรค์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

โดยผู้ต้องหาที่ 1 ให้การยอมรับว่า ได้รับการติดต่อจากนายอาโก สัญชาติเมียนมาร์ ให้มารับคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ จำนวน 14 คน (รวมผู้ติดตาม) โดยรอรับที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อไปส่งปลายทางพื้นที่ชั้นใน โดยได้ค่าจ้าง 2,000 บาท/ครั้ง โดยผู้ต้องหาที่ 1 ทราบดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 12 คน

ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ และยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทางและได้กระทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 2 – 12 ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถ เพื่อเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 10,000 บาท