สืบนครบาลแกะรอย รวบอดีตนักแบดมินตันเยาวชนลวงสาวผ่านแอปหาคู่ ก่อนฉกไอแพด-รถจยย. ขายหาเงินเล่นพนัน
วันที่ 2 ก.พ.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. จับกุมนายศุภกิตติ์ หรือกอล์ฟ อายุ 27 ปี ชาว จ.ระนอง อดีตนักแบดมินตันเยาวชนระดับท็อป 3 ของประเทศ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 37/2567 ลงวันที่ 30 ม.ค.67 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 , 335 (8) จับกุมตัวได้ที่ภายในร้านอินเตอร์เน็ต ซอยประชาสงเคราะห์ 45 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
การจับกุมครั้งนี้ชุดสืบสวนนครบาลได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้ช่วยติดตามตัว นายศุภกิตติ์ หรือกอล์ฟ หลังก่อเหตุลวงหญิงสาวผ่านแอปหาคู่ ก่อนตีสนิทเมื่ออยู่กินกันแบบแฟน ได้ฉวยเอาทรัพย์สินของหญิงสาว และมีพฤติการณ์ลักรถ จยย.ที่มีกุญแจเสียบคาไว้กับรถ นำไปขายต่อ โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ต่อมาศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ได้พิจารณาออกจังหวัด 1 หมาย กระทั่งชุดสืบนครบาลร่วมกันแกะรอยจับกุมตัวไว้ได้
สอบสวน นายศุภกิตติ์ ให้การรับสารภาพ โดยให้การว่า หลังจากที่ตนเรียนจบจากโรงเรียนมัธยมชื่อดังย่างหัวลำโพง ในโควตานักกีฬาแบดมินตัน ช่วงนั้นตนมุ่งมั่นเล่นกีฬาจนมีชื่อชั้นติดในระดับท็อป 3 ของประเทศ จนได้โควตาทุนของมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านดินแดง เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ก่อนจะเรียนไม่ไหวจึงเลิกเรียนหันมารับสอนแบดมินตันแทน จนมีเงินก้อนนำมาลงทุนขายอุปกรณ์กีฬา แต่เจ๊งไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนคดีที่ตนถูกจับนั้น รับสารภาพว่า เมื่อช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน 2566 ตนได้รู้จักกับผู้เสียหายผ่านแอปหาคู่ ชื่อดัง ได้คุยกันในแอปประมาณ 3 วัน และได้ขอคอนแท็กเพิ่มเป็นเพื่อนกันทางเฟซบุ๊ก จากนั้นได้ทักแชทและโทรคุยกันทางเฟซบุ๊กแทน ประมาณ 1 เดือน
ผู้ต้องหาให้การอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.66 ตนได้เดินทางไปหาผู้เสียหายในเมืองบุรีรัมย์ และได้ไปอยู่ด้วยกัน ต่อมาประมาณวันที่ 23 ธ.ค.66 ตนได้นำไอแพดแอร์ 4 ของผู้เสียหายไปขายที่ร้ายขายโทรศัพท์มือถือไม่ทราบชื่อ ซึ่งตั้งอยู่ภายในห้างในตัวเมืองบุรีรัมย์ ได้เงินมาจำนวน 8,000 บาท ต่อมาเมื่อประมาณวันที่ 7 ม.ค.67 ตนได้นำรถจักรยานยี่ห้อ จี พี เอกซ์ สีเทา พร้อมกุญแจรถคันดังกล่าวของผู้เสียหายไปฝากขายที่ร้านรับซื้อ ไม่ทราบชื่อซึ่งร้านตั้งอยู่ใกล้กับ บขส.จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เงินมาจำนวน 10,000 บาท จากนั้นเมื่อตนทราบว่าผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดี จึงได้หลบหนีเข้ามาที่กรุงเทพฯ อาศัยร้านอินเตอร์เน็ตเป็นที่นอน เงินที่ได้นำไปเล่นพนันออนไลน์จนหมดตัว และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้คาร้านอินเตอร์เน็ตในที่สุด
สำหรับคดีที่ถูกกล่าวหาว่าลักรถ จยย.ที่เสียบกุญแจคาไว้นั้น อ้างว่าไม่มีเจตนาลักเอาไป เพียงแต่แอบขับไปใช้ และนำมาจอดคืนที่จุดเดิม โดยไม่ทราบว่ามีบุคคลใดมาลักต่อไปอีกหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อคำให้การแต่อย่างใด นอกจากนี้จากการตรวจสอบข้อมูลผ่านเว็บไซต์ blacklistseller พบข้อมูลว่ามีผู้เสียหายแจ้งเตือนข้อมูลผู้ขายที่ควรระวังไว้จำนวน 2 รายการ เบื้องต้นจึงถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย