ตำรวจไซเบอร์ จับกุมเครือข่ายหลอกทำภารกิจเพิ่มยอดขายสินค้า หาเหยื่อผ่านทาง Facebook มูลค่าความเสียหายกว่า 1.7 ล้านบาท
สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2565 ผู้เสียหายได้เข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Facebook เพื่อหางานเสริมทำออนไลน์ ต่อมาได้พบโพสต์ประกาศชักชวนทำงานที่น่าสนใจ จึงได้ติดต่อพูดคุยกับคนร้ายผ่านช่องทาง Messenger ของ Facebook โดยคนร้ายแจ้งว่าเป็นการทำภารกิจเพิ่มยอดขายสินค้า ซึ่งอ้างว่าเป็นงานในนามของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง รายได้ผลตอบแทนดี ผู้เสียหายมีความสนใจคนร้ายจึงให้ติดต่อพูดคุยรายละเอียดงานผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE โดยคนร้ายได้ส่งลิงก์เว็บไซต์ปลอมมาให้ผู้เสียหายใช้ทำภารกิจ และยังสอนวิธีการนำเงินเข้ามาลงทุน สอนการซื้อสินค้าเพื่อให้ได้รับค่าคอมมิชชั่น ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้านั้นๆโดยหลังจากทำภารกิจสำเร็จจะสามารถถอนทั้งเงินต้นและยอดกำไรออกมาได้
ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงร่วมลงทุนทำภารกิจ โดยได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารคนร้ายไปทั้งหมด จำนวน 10 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,713,617.80บาท เมื่อต้องการที่จะถอนเงิน จะยังไม่สามารถถอนเงินได้ คนร้ายจะอ้างด้วยเหตุผลต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มเรื่อยๆ เช่น จะต้องโอนเงินเพื่อชำระค่าภาษี ค่าธรรมเนียมก่อนระบบล็อคต้องยืนยันตัวตนด้วยการโอนเงินเพื่อปลดล็อคหรือหากต้องการขยายเวลาชำระค่าภาษีต้องโอนเงินขั้นต่ำ 35% ตามยอดที่คนร้ายแจ้งถึงจะถอนเงินได้สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ไม่ได้รับเงินคืน จึงทราบว่าถูกหลอกลวงทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. และพล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท.จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้
ต่อมา วันที่ 18 ม.ค.2567 เวลาประมาณ 15.00 น. พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ส่งกำลังชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.ภาสกร กันประดับ และว่าที่ พ.ต.ต.สันติ ชื่นชม สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 บูรณาการร่วมกับชุดสืบสวน สภ.วัฒนานคร เข้าร่วมจับกุมตัว นายทรงกรดฯ อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดสระแก้วหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 3011/2566 ลงวันที่ 12 ก.ย.2566 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” อันเป็นความผิด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 โดยควบคุมตัวได้ที่ บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 10 ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า เมื่อประมาณ 1-2 ปีที่ผ่านมา จำวันเวลาที่แน่ชัดไม่ได้ มีเพื่อนที่รู้จักเคยมาพักด้วยกันแอบนำบัตรประชาชนของตนไปเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์แล้วอีกวันต่อมาเพื่อนคนดังกล่าวนำโทรศัพท์มาให้ตนสแกนใบหน้า โดยตนทราบเพียงแค่ว่าเพื่อนนำบัตรไปใช้เปิดบัญชี แต่ไม่ทราบว่านำบัญชีไปใช้ทำอะไร และตนไม่ได้รับเงินค่าเปิดบัญชีจากบุคคลใดเลย จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหาย และจะเร่งขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป