ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบแก๊งลักของเก่า ควงอาก้า ปล้นโรงงานร้างกลางเมืองนครปฐม เสียหายกว่าสองล้าน
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ, พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว, พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม
1.นายชูชีพ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.726/66 ลง 26 ธ.ค.66
2.นายชัยชาญ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.727/66 ลง 26 ธ.ค.66
3.นายฉัตรชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.729/66 ลง 26 ธ.ค.66
4.นายต้นตระการ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.730/66 ลง 26 ธ.ค.66
5.น.ส.มณฑิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.731/66 ลง 26 ธ.ค.66
6.น.ส.รุ่งทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.733/66 ลง 26 ธ.ค.66
7.นางดอกรักษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.734/66 ลง 26 ธ.ค.66
8.น.ส.ชลธิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.735/66 ลง 26 ธ.ค.66
9.น.ส.กิตติยา (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.738/66 ลง 27 ธ.ค.66
10.นายภีราพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.739/66 ลง 27 ธ.ค.66
ฐานความผิด “ร่วมกันลักทรัพย์โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า,
โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และ ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
พร้อมด้วยของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิดคือ
1. รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีเทาดำ มีคอกกั้น จำนวน 1 คัน
2. รถยนต์กระบะยี่ห้ออิซุซุ รุ่นดีแม็ก สีเทาดำ มีคอกกั้น จำนวน 1 คัน
3. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีทอง จำนวน 1 คัน
สถานที่จับกุม บริเวณแคมป์คนงาน ไม่มีเลขที่ ม.7 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 09.00 น. (ผู้ต้องหาที่ 1-9) และ บริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ม.7 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 11.45 น. (ผู้ต้องหาที่ 10)
พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 09.00 น. ผู้ต้องหากลุ่มแรกจำนวน 8 คน ซึ่งเป็นเครือญาติกัน ได้เข้าไปลักสายไฟภายในโรงงานร้างแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม โดยถอดบานเกล็ดของอาคารแล้วมุดเข้าไปตัดลักสายไฟภายในโรงงาน ได้สายไฟหนักประมาณ 300 กิโลกรัม แล้วขนขึ้นรถกระบะหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ
ต่อมาวันเดียวกันกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มแรก 8 คน ได้ตกลงใจกันว่าจะเดินทางไปลักลอบตัดสายไฟที่โรงงานที่เกิดเหตุอีก แล้วชักชวนกำลังคนมาก่อเหตุเพิ่ม รวมเป็น 18 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1 จำนวน 5 คน ทำหน้าที่ควบคุมตัวพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงงานฯ
กลุ่มที่ 2 จำนวน 7 คน ทำหน้าที่เข้าไปลักตัดสายไฟแล้วขนย้ายไปขึ้นรถกระบะ
กลุ่มที่ 3 จำนวน 6 คน ทำหน้าที่ขับรถไปส่งและพาผู้ต้องหากลุ่มที่ 2 หลบหนี
ต่อมาเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันเดียวกัน กลุ่มผู้ต้องหาได้ลงมือก่อเหตุ โดยให้ผู้ต้องหากลุ่มที่ 1 ควบคุมตัวพนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งทั้ง 5 คน สวมใส่เครื่องแต่งกายอำพรางใบหน้า และในการเข้าควบคุมตัวพนักงานรักษาความปลอดภัย ผู้ต้องหากลุ่มที่ 1 ได้ใช้อาวุธปืนยาวอาก้า จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืนพกสั้นแบบแม็กกาซีน จำนวน 1 กระบอก และมีดดาบเดินป่า ความยาวรวมด้ามประมาณ 30 เซนติเมตร จำนวน 1 เล่ม เมื่อควบคุมตัวพนักงานรักษาความปลอดภัยไว้ได้แล้ว
ผู้ต้องหากลุ่มที่ 2 ได้งัดประตูโรงงานเป็นช่องพอให้คนเข้าได้ แล้วเข้าไปลักตัดสายไฟ ขนย้ายออกมาขึ้นรถกระบะ จำนวน 2 คัน ซึ่งมีผู้ต้องหากลุ่มที่ 3 เป็นคนขับและคนโดยสาร ขนย้ายสายไฟและพาผู้ต้องหากลุ่มที่ 2 หลบหนี ส่วนผู้ต้องหากลุ่มที่ 1 ได้ขึ้นรถยนต์อีกคันหนึ่งหลบหนีออกไปพร้อมกัน ทั้งนี้ระยะเวลา
ก่อเหตุทั้งหมด เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 15 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 22.00 น. ถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 06.00 น. ได้สายไฟน้ำหนักราว 1 ตัน รวมความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท
หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหากับพวกจำนวน 14 คน (อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบ 4 คน) โดยก่อนหน้านี้สามารถจับกุมได้ 3 คน เหลือที่ยังหลบหนีอีก 11 คน กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้รับการประสานจาก ภ.จว.นครปฐม ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือ จนทราบว่าผู้ต้องหาที่เหลืออีก 11 คน หลบหนีไปซ่อนบริเวณแคมป์คนงานไม่มีเลขที่ ม.7 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหา ในช่วงเช้าของวันที่ 10 มกราคม 2567 นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 9 คน
ต่อมาวันที่ 11 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 11.45 น. ได้สืบสวนต่อเนื่องจนทราบว่า นายภีราพัฒน์ฯ หัวหน้ากลุ่มที่ 1 ซึ่งใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงานรักษาความปลอดภัย ได้หลบหนีไปอยู่ที่บริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ม.7 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา จึงนำกำลังไปจับกุมได้ที่บริเวณดังกล่าว และพบรถยนต์คันที่ นายภีราพัฒน์ฯ ขับไปก่อเหตุ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลางเพิ่มเติมแล้วนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพรงมะเดื่อ จ.นครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาที่ 1-9 ให้การภาคเสธ โดยให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันเข้าไปลักตัดสายไฟจริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพกพาอาวุธปืนไปใช้บังคับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ส่วนผู้ต้องหาที่ 10 ให้การว่าในวันเกิดเหตุตนไปกับผู้ต้องหาที่ 1-9 จริง แต่ไม่ได้พกพาอาวุธไปแต่อย่างใด