“รองโจ๊ก” กำชับตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมสืบสาน รักษา ต่อยอด เสริมสร้างคุณภาพชีวิตด้านการศึกษาให้เด็กชายขอบ-เฝ้าระวังปัญหายาเสพติด

“รองโจ๊ก” กำชับตำรวจตระเวนชายแดน เดินตามปณิธานสมเด็จย่า ร่วมสืบสาน รักษา ต่อยอด เสริมสร้างคุณภาพชีวิตด้านการศึกษาให้เด็กชายขอบ และร่วมเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด หลังระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลง จนเดินข้ามได้ในหลายจุด หวั่นเป็นจุดลำเลียงยาเสพติด

วันที่ 11 มกราคม 2567 13.00 น. พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ และประชุมรับฟังสรุปสถานการณ์ด้านความมั่นคงและชายแดน ในความรับผิดชอบของ กก.ตชด.24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ จังหวัดอุดรธานี พร้อมมอบสิ่งของ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ที่ปฎิบัติงานมาตลอดทั้งปี ซึ่งการตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญเป็นไปตามแนวทางที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ดำเนินการในฐานะรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่กำกับดูแลงานด้านความมั่นคง

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กล่าวชมเชยการทำงานของตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเสียสละรับผิดชอบพื้นที่ที่ไร้ความเจริญ และยังทำหน้าที่ปกป้องประชาชน ตามแนวชายแดนทั้งในแง่ของปัญหายาเสพติดและการศึกษาของเยาวชนชายขอบ เพื่อให้เด็กเด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นการสืบสาน รักษา และ ต่อยอด พระปณิธานของสมเด็จย่า ที่ทรงมุ่งมั่นให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม

สำหรับค่าย ตชด. แห่งนี้ รับผิดชอบ 4 หน่วยด้วยกัน ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี บึงกาฬ เลย และหนองคาย โดยกำชับให้เฝ้าระวังปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติด เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่พบการลักลอบการนำเข้ายาเสพติดผ่านลำน้ำโขงเข้ามา เข้าในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งมีทั้งแบบรายย่อยและรายใหญ่ ล้วนเป็นภัย ต่อชีวิตและทรัพย์สิน ยิ่งในช่วงนี้ ลำน้ำโขงลดระดับลงอย่างมาก ทำให้หลายช่วง เดินข้ามไปมา ได้สะดวก จึงต้องเฝ้าระวังให้เข้มข้น

นอกจากนี้ยังขอให้เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องของการค้ามนุษย์และค้าประเวณี ซึ่งเป็นหน้างานหลัก ของศูนย์พิทักษ์เด็กสตรี ครอบครัว ปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคการประมง โดยที่ผ่านมาพบว่า ยังมีปัญหาลักลอบเข้ามาค้าประเวณีและถ่ายคลิปอนาจาร เพื่อนำเข้าสู่โซเชียล ยากต่อการกู้ภาพเด็กๆ กลับออกมา จึงกลายเป็นบาดแผลเมื่อเด็กโตเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นการให้การศึกษาสำหรับเยาวชนและการป้องปราม จึงเป็นงานคู่ขนานที่ขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ และ หากความเข้มงวดเหล่านี้ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ปัญหาที่เกิดขึ้นจะค่อยๆ ลดลงและหมดไปในที่สุด

อีกทั้งได้กล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนทุกนายที่ร่วมกันสนับสนุนกำลังพลในการดูแลประชาชนช่วงเดินทางกลับภูมิลำเนาในเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาจนทำให้งานด้านการจราจรและอุบัติเหตุลดลงเป็นที่น่าพอใจและขอให้เดินตามแนวทางนี้ต่อไปเพื่อรับมือกับอีกหลายเทศกาลหยุดยาวที่จะเริ่มขึ้นหลังจากนี้เป็นต้นไปโดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์