สืบนครบาลรวบอดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตัวการลวงหนุ่มโฉดคอลเสียวก่อนเเบล็กเมลขู่เรียกเงิน อ้างเป็นแค่บัญชีม้า
เมื่อวันที่ 9 ม.ค.66 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบนครบาล และชุด PCT5 จับกุมตัว นาย นิพนธ์ แพทย์เพียร อายุ 64 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.4051/2566 ลงวันที่ 10 พ.ย. 66 ในข้อกล่าวหาว่า “รีดเอาทรัพย์” จับกุมตัวได้ที่ ริมชายหาดบ้านอำเภอ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
สืบเนื่องจาก ผู้ต้องหารายนี้หลอกลวงชายหนุ่มลวกก๋วยเตี๋ยวให้ดู ซึ่งในอดีตจะมีใช้ช่องทางผ่าน MSN , Webcam หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ วิวัฒนาการมาจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดเหล่ามิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้นำรูปแบบการหลอกนี้ไปใช้ในการหลอกลวงแล้ว มีชายตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก เป็นภัยสังคมยิ่งเพราะการหลอกลวงลักษณะนี้เหยื่อเกือบทุกรายจะมีความคิดทำร้ายตัวเอง ล่าสุดหนุ่มวัยกลางคนหน้าที่การงานดี อนาคตไกล ต้องตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้ โดยคนร้ายสร้างโปรไฟล์เป็นครูเบส ครูสาวชื่อดังในโลกออนไลน์ และเหยื่อได้หลวมตัวแชทข้อความสนทนาตามประสาชายโสด โดยขบวนการนี้ใช้มารยาต่างๆนาๆ ทำให้เหยื่อเคลิบเคลิ้ม ก่อนเชือดด้วยการขอ “คอลเสียว” โดยจะหว่านล้อมให้เหยื่อลวกก๋วยเตี๋ยวให้ดูโดยอ้างว่าถ้าทำให้ดูจะยอมตกลงคบเป็นแฟน เมื่อเหยื่อได้หลวมตัว ก่อนจะสาวเจ้าโลกให้ดูผ่านวีดิโอคอล เห็นทั้งอวัยวะเพศและใบหน้า จากนั้นได้ถูกมิจฉาชีพบันทึกวีดิโอไว้ทุกขณะ ซึ่งหลังจากนั้นครูสาวสวยเปลี่ยนเป็นมิจฉาชีพ พร้อมข่มขู่เรียกเงิน หากไม่จ่ายจะส่งคลิปให้เพื่อนในเฟสบุ๊คของเหยื่อทั้งหมด ผู้เสียหายกลัวจึงยอมโอนเงินให้ แต่ก็ยังถูกข่มขู่เรื่อยมา รวมทั้งสิ้น 3 ครั้ง รวมกว่า 50,000 บาท จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี และเหยื่อถึงขั้น “อยากทำร้ายตัวเอง”
ต่อมา เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจนทราบว่าหนึ่งในขบวนการนี้ คือ นายนิพนธ์ 64 ปี ซึ่งต่อมาได้มีการออกหมายจับ จากเบาะแสทราบเพียงว่าเป็นบุคคลที่เร่ร่อนอยู่ตามริมชายหาดพัทยาเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาล และ PCT5 ตระเวนเดินตามริมชายหาดเป็นเวลากว่า 3 วัน กระทั่งวันที่ 8 ม.ค.จึงสามารถจับกุมตัว นายนิพนธ์ฯ โดยจับกุมตัวได้ที่ ริมชายหาดบ้านอำเภอ จ.ชลบุรี
สอบสวน นายนิพนธ์ฯ ให้การรับว่า “เมื่อประมาณปี 2566 ตอนนั้นพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแถบชาญเมืองโคราช ได้มีคนมาตระเวนเกณฑ์คนจากหมู่บ้านที่ละ 100-200 คน ไปยัง จ.ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อใช้บัญชี ซึ่งตนเองก็ได้ตกลงไปด้วย โดยเมื่อไปถึงจะให้พักอยู่ในตึกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นจะให้เราเปิดบัญชีมาใช้ในรับเงินจากการหลอกลวง โดยจะมีที่พักมีอาหารคอยเลี้ยงดู และเรามีหน้าที่แค่คอยแสกนใบหน้าให้ ซึ่งครานั้นตนเองอยู่ในตึกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประมาณ 6 วัน จากนั้นก็กลับมายังประเทศไทย โดยตนเองได้ค่าตอบแทนบัญชีละ 7,000 บาท ตอนนั้นเปิดไป 3 บัญชี ได้เงินมา 21,000 บาท ซึ่งหลังจากวันนั้นตนเองก็ไม่ทราบแล้วว่าบัญชีจะถูกนำไปใช้หลอกลวงอะไรบ้าง”
เบื้องต้นจึงถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย