สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้ติดตามสืบสวนการกระทำความผิดทางสื่อสังคมออนไลน์ จากการสืบสวนทราบว่า มีเพจ Facebook ชื่อ “ทรัพย์ เจริญ รับต่อภาษีรถหลุดจำนำ & รับต่อทะเบียน & ทำป้ายทะเบียนรถทุกชนิด” มีพฤติการณ์รับทำป้ายทะเบียนและป้ายแสดงการเสียภาษี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อป้ายแสดงการเสียภาษี และเพจดังกล่าวก็ได้ตอบรับทำ หลังจากนั้นได้ส่งป้ายแสดงการเสียภาษีดังกล่าวให้สายลับ เมื่อทำการตรวจสอบกับกรมการขนส่งทางบกทราบว่าเป็นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอม
จากการสืบสวนทราบว่าเจ้าของเพจและผู้ที่เป็นคนส่งป้ายแสดงการเสียภาษีปลอมให้แก่สายลับคือ นายมนตรีฯ อายุ 35 ปี พักอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 15 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลอาญาเพื่อออกหมายจับ
ต่อมาวันที่ 26 ธ.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 ร่วมกับ กก.3 บก.สอท.5 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าพบเห็นนายมนตรีฯ อยู่ที่บ้านพักในพื้นที่หมู่ 15 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี จึงนำหมายศาลอาญา พร้อมแสดงตัวจับกุมนายมนตรีฯ ในความผิดฐาน “ปลอมเอกสารราชการและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
เบื้องต้น นายมนตรีฯ รับว่าตนเองได้สั่งแผ่นป้ายทะเบียน (ป้ายทะเบียนปลอม) จากแอปพลิเคชั่นไลน์ ในราคาประมาณแผ่นละ 300 – 350 บาท และนำมาขายต่อให้ลูกค้าในราคาแผ่นละ 600 บาท ได้กำไร 300 บาท ส่วนป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปี นายมนตรีฯรับว่าทำเองที่บ้าน โดยจะถ่ายภาพและสแกนป้ายวงกลมของจริงจากรถคันอื่น จากนั้นจากนำมาตัดต่อด้วย Photoshop และกรอกรายละเอียดขึ้นเองหรือตามที่ลูกค้าสั่งมา ใช้เวลาทำประมาณ 3 นาที ต้นทุนไม่ถึง 10 บาท แต่ขายได้ราคา 1,300 – 1,500 บาท เห็นว่าทำง่ายและได้กำไรดี จึงลองทำจนเป็นที่นิยมของลูกค้ารถผี และติดตลาด
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขอเตือนพี่น้องประชาชนว่าการซื้อขายป้ายทะเบียนและแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปีปลอมนั้น มีความผิดฐาน ใช้เอกสารราชการปลอม ส่วนผู้ขายนั้นมีโทษ ปลอมแปลงเอกสารราชการ มีโทษจำคุก เช่นกัน ท่านจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4, พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 และพ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 ได้สั่งการให้ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4 และ พ.ต.ต.มนัส นิลกรรณ์ สว.กก.3 บก.สอท.5 ดำเนินการจับกุม
