จับโค้ช-ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลประจําโรงเรียน ลวงเด็กกระทําชำเรา

ปคม. จับโค้ช-ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลประจําโรงเรียน ลวงเด็กมากระทําชำเรา

จากกรณีที่แม่เด็กชาย 2 คน ร้อง “ปวีณา” ช่วยลูกชาย วัย 10 ขวบ ออกจากขุมนรก ถูกโค้ชและผู้สนับสนุน 2 คน ร่วมกันข่มขืน พาตะเวนไปตามโรงแรมถ่ายคลิปข่มขู่เป็นเวลาแรมปี “ปวีณา” ประสาน รอง ผบ.ตร. ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้การ ปคม. โดยชุดจับกุม กก.3 บก.ปคม. สามารถจับกุมได้แล้ววันนี้ พบของกลางเพียบ ทั้งคลิปวิดีโอ รูปภาพ สื่อลามกเด็ก และของกลางอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในคดี โดยพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. คาดว่ามีเด็กผู้เสียหายอีกจำนวนมาก เตรียมขยายผลและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 15 ธ.ค. 66 ที่ชั้น 19 อาคารพิทักษ์สันติ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พร้อม นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ร่วมแถลงข่าวพร้อมแม่เด็กชาย 2 คน อายุ 10 ขวบ

โดยมี พ.ต.อ.กรีธา ตัณคณารัตน์ รองผบก.ปคม. , พ.ต.อ. สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. , พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม. , พ.ต.อ. มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม. , พ.ต.อ. ศราวุธ จันต๊ะ วงค์ ผกก.3 บก.ปคม. ร่วมแถลงกรณีจับกุมผู้ต้องหาตามหมาย 2 ราย คือนายสมชาย (นามสมมุติ) โค้ชฟุตบอล ปัจจุบันรับราชการ อายุ 43 ปี และนายสมยศ (นามสมมุติ) ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล อดีตทหารยศพันตรีเกษียณราชการ อายุ 64 ปี จาก จ.อุดรธานี วันที่ 15 ธ.ค. 66 เด็กชายวัย 10 ขวบ 2 ราย นักเรียนชั้นป.4 ทนทุกข์ทรมานเหมือนตกนรก ถูกโค้ชฟุตบอลและผู้สนันสนุนทีมข่มขืนกระทำชำเรา ถ่ายคลิป ข่มขู่ขัดขืนจะไล่ออกจากทีมฟุตบอล แม่ร้อง “ปวีณา” ประสาน ผบก.ปคม. จับแล้ว

หลังแม่ขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ เด็กชาย 2 คน อายุ 10 ขวบเท่ากัน เรียนอยู่ชั้นป.4 ทั้งคู่ ถูกโค้ชสอนฟุตบอลชายและผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลยศพันตรีวย 64 ปี ล่วงละเมิดเพศทางทวารหนักและถ่ายคลิปหลายครั้ง จนเด็กมีอาการซึมเศร้าและไม่อยากมาโรงเรียน ขอ “ปวีณา” ช่วยเหลือด้วย

แม่เด็กผู้เสียหายเล่าว่า ที่ผ่านมามีโค้ชสอนฟุตบอลชายและผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลยศพันตรีวัย 64 ปี จัดตั้งทีมฟุตบอลเยาวชนชายได้มาขอใช้สนามฟุตบอลโรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี เพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกซ้อมเป็นประจำ ซึ่งจะมีเด็กนักเรียนชายในโรงเรียนอายุ 9 -13 ปี สนใจและรักกีฬาฟุตบอลก็ไปขอสมัครร่วมทีมด้วย

วันที่ 6 พ.ย.66 ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้นป.4 ก็เอาเสื้อฟุตบอลไปคืนครูและบอกว่าจะไม่เล่นฟุตบอลอีกแล้ว ครูจึงแปลกใจเพราะเด็กรักในการเตะฟุตบอลมาก จึงได้ถามจนด.ช.เอ เล่าให้ฟังว่า ถูกนายสมชาย(นามสมมุติ) โค้ชฟุตบอล ซึ่งมีอาชีพหลักเป็นข้าราชการ อายุ 43 ปี และนายสมยศ (นามสมมุติ) อดีตทหารยศพันตรี ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล อายุ 64 กว่าปี ข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนักและถ่ายคลิปหลายครั้งที่บ้านพักและโรงแรม ระหว่างเก็บตัวฝึกซ้อม หรือเดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ ก็จะถูกข่มขืน

นอกจากนี้แม่ ด.ช.เอ ยังเล่าอีกว่า เด็กๆ ที่อยู่ในทีมส่วนใหญ่จะอยู่แบบไปกลับ เมื่อฝึกซ้อมเสร็จก็กลับบ้าน แต่จะมีเด็ก 4-5 คน ที่โค้ดและพันตรีผู้สนันสนุนจะคุยกับผู้ปกครองขออุปถัมป์และให้กินนอนที่บ้านโค้ด ต่อมาช่วงวันที่ 30 ก.ค.-ต้นเดือนส.ค.66 โค้ดกับผู้สนันสนุนพาเด็กๆ ไปแข่งขันที่จ.บึงกาฬ โดยเปิดห้องพักที่รีสอร์ท หลังแข่งเสร็จ โค้ดกับพันตรีผู้สนันสนุนก็จะเรียกเด็กไปกระทำชำเราที่ห้องพัก ห้องละ 2-3 คน โดยผลัดเปลี่ยนกันกระทำและถ่ายคลิป ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีด.ช.เอ และด.ช.บี ถูกกระทำด้วย

ซึ่งก่อนหน้านี้เด็กๆ ก็ถูกกระทำระหว่างไปแข่งขันที่จ.บึงกาฬ เช่นกัน และเด็กอีก 3 คนที่อยู่บ้านโค้ดก็จะถูกผลัดเปลี่ยนกันมาให้โค้ชและผู้สนับสนุนกระทำ บางครั้งเด็ก 4-5 คนก็ถูกสั่งให้มาร่วมวงพร้อมกันและผลัดกันกระทำทางเพศพร้อมถ่ายคลิปเก็บไว้

“ตลอดเวลาเด็กๆ ทุกคนไม่กล้าขัดขืนเพราะโค้ดและผู้สนันสนุนเคยข่มขู่ไว้ว่าจะไล่ออกจากทีมและไม่ให้เล่นฟุตบอลอีก เด็กทุกคนจึงต้องยอมทน เพราะอยากจะเล่นฟุตบอลและอยากเป็นนักกีฬาฟุตบอล หากใครกลับบ้านหรือหายไปไม่มาฝึกซ้อมโค้ชกับผู้สนันสนุนก็จะไปตามถึงบ้านและรับตัวกลับ”

หลังกลับจากจ.บึงกาฬ ด.ช.เอ ก็ไม่ไปฝึกซ้อมและพยายามตีตัวออกห่าง กระทั่งวันที่ 25 ส.ค.66 โค้ชกับพันตรีผู้สนับสนุนก็มาตามที่บ้านด.ช.เอ ที่บ้าน ยายซึ่งไม่รู้เรื่องก็ยอมให้หลานไปอยู่บ้านโค้ชอีกและด.ช.เอ ก็ถูกกระทำเรื่อยมาจนวันที่ 6 พ.ย. ด.ช.เอ ทนไม่ไหวจึงได้ขอลาออกจากทีมและเอาเสื้อมาคืน

ขณะที่ ด.ช.บี ซึ่งถูกโค้ชและผู้สนันสนุนกระทำชำเราด้วย เมื่อรู้ว่าด.ช.เอ ไม่ยอมทนแล้วจึงได้ออกจากทีมด้วย เมื่อแม่และยายของเด็กชายทั้งสองรู้เรื่องก้ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เพราะทั้งโค้ชและผู้สนันสนุนเป็นคนกว้างขวางและรู้จักคนที่มีตำแน่งใหญ่โต จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเอาผิดโค้ชกับผู้สนันสนุน 2 คนนี้ให้ดำเนินคดีถึงที่สุด

หลังรับเรื่อง นาง “ปวีณา” ได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ขับรถไปรับแม่ยายและเด็ก 2 ครอบครัวนี้ที่จ.อุดรธานี เพื่อนำมาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ และดูแลสภาพจิตใจ 2 เด็กชาย ก่อนนางปวีณา พาเด็กและแม่ทั้ง 2 ราย เข้าแจ้งความกับ พล.ต.ต. ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. และมูลนิธิปวีณาฯ ได้พาไปตรวจร่างกาย รพ.ตำรวจ และพาสอบสหวิชาชีพที่ ปคม. เด็กยืนยันชัดเจนถูกล่วงละเมิดทางเพศมาเป็นเวลาแรมปี

ต่อมาวันที่ 14 ธ.ค. 66 ผบก.ปคม. ได้แจ้งนางปวีณา ว่าสามารถออกหมายจับและได้จับกุมโค้ชฟุตบอลและพันตรีผู้สนุบสนุนทีมฟุตบอลได้นำมาสอบสวนที่ ปคม. โดยวันนี้นางปวีณา ได้พาแม่มาร่วมประชุม และขอบคุณ พล.ต.ต. ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านที่ได้ช่วยเหลือ และมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามช่วยเหลือคดีพร้อมกับ ปคม. ต่อไป