ตำรวจสอบสวนกลาง สนธิกำลังร่วมกับ กรมสรรพสามิต บุกค้นแหล่งซุกซ่อนบุหรี่เถื่อนเครือข่ายรายใหญ่ย่านฝั่งธน มูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 บก.ปอศ. และ
พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.วรรณลพ รัตนวงษ์ สว.กก.2 บก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.2 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต

ร่วมกันจับกุม นายยศบดินทร์ฯ อายุ 20 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 พรบ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 203 ประกอบมาตรา 204 “ผู้ใดมีไว้ในครอบครองโดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งสินค้าที่ได้รับยกเว้นหรือได้รับคืนภาษีแล้วหรือผู้ใดขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน”

ของกลางที่ตรวจพบ

– รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล จำนวน 1 คัน

– บุหรี่ที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศหลากหลายยี่ห้อ จำนวน 6,790 ซอง รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 6,396,180 บาท

พฤติการณ์สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากประชาชนว่า บริเวณกลางซอยพุทธมณฑลสาย 1 แยก 5 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร มีรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลสีขาว มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายสินค้าประเภทบุหรี่นำเข้าหลากหลายชนิดและยี่ห้อ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ ให้กับกลุ่มร้านค้าปลีกและบุคคลในพื้นที่ โดยอ้างว่า สินค้าที่ขายเป็นสินค้านำเข้ามาจากต่างประเทศและขายในราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก โดยจะมีการจำหน่ายสินค้าให้แก่ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และจะใช้วิธีเก็บสินค้าไว้บนรถยนต์ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับรถ Truck Food เพื่อหลบสายตาเจ้าหน้าที่และหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม ซึ่งเป็นพฤติกรรมรูปแบบใหม่ของผู้ต้องหา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนและติดตามพฤติกรรม พบว่ามีกลุ่มบุคคลจะนำรถยนต์มาจอดและจะมีวัยรุ่นชายขับรถจักรยานยนต์มารับของเพื่อนำออกมาจำหน่าย ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกับผู้ต้องหารายใหญ่ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไปเมื่อเดือน ก.ค.66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวและจับกุมผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดของกลาง จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา