กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป, พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร
ร่วมกันจับกุม นายธรณีฯ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 5 หมายจับ
1. ศาลแขวงนครปฐม ที่ จ.235/2566 ลง 26 กันยายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยมิได้กระทำต่อประชาชน แต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
2. ศาลจังหวัดปัตตานีที่ จ.29/2566 ลง 16 มกราคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
3. ศาลจังหวัดขอนแก่นที่ จ.371/2566 ลง 21 มิถุนายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและร่วมกันฉ้อโกง”
4. ศาลจังหวัดลำพูนที่ จ.226/2565 ลง 21 มิถุนายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
5. ศาลอาญาที่ 2331/2566 ลง 20 กรกฎาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
สถานที่จับกุม หน้าร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ ตำบลนาชะอัง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร
พฤติการณ์ กล่าวคือก่อนเกิดเหตุ นายธรณีฯ (ผู้ต้องหา) ได้รับจ้างเปิดบัญชีให้กับนายแดง ไม่ทราบชื่อและสกุล โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 1,000 บาท ต่อมาภายหลังพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้นำบัญชีธนาคารของ ผู้ต้องหาไปใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหายในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หลอกข่มขู่ให้ ผู้เสียหายกลัวและให้โอนเงินเข้ามาในบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบ, การหลอกร่วมลงทุนในเงินดิจิตอล และการหลอกลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ จนมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชีและกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุจำนวนรวมกว่า 5 ราย ในแต่ละท้องที่แตกต่างกันไป รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท พนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหานี้ไว้แล้วรวม 5 หมายจับ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนจนทราบว่านายธรณีฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้างต้น ได้มาปรากฏตัวอยู่ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ในพื้นที่ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุมตัว และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา