ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย, พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 3 กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม
ร่วมกันจับกุม นายเทพรัตน์ฯ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ จ.681/2566 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, บุกรุกเข้าไปในเคหสถานในเวลากลางคืน สถานที่จับกุม บริเวณหน้าโรงแรม ซอยรัชดาภิเษก 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 น.ส.ยุพาฯ ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่าได้มีคนร้ายงัดเข้ามาลักทรัพย์ภายในร้านเสริมสวยของตน โดยจากการตรวจสอบทรัพย์สินพบว่าอุปกรณ์จัดทรงผม และไดร์เป่าผมยี่ห้อ Dyson จำนวน 3 ตัวหายไป รวมมูลค่าประมาณ 130,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่านายเทพรัตน์ฯ (ผู้ต้องหา) ได้ขับขี่ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว เข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์แล้วหลบหนีไป พนักงานสอบสวนจึงได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรีออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว
จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคม 2566 นายเทพรัตน์ฯ (ผู้ต้องหา) เคยขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวไปก่อเหตุลักทรัพย์ที่ร้านขายเสื้อผ้าในพื้นที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จำนวน 2 ร้าน และเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ที่ร้านโทรศัพท์ในพื้นที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้ โดยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจในพื้นที่ อ.ท่ามะกา ได้ตรวจสอบพบนายเทพรัตน์ฯ กำลังขับขี่รถยนต์เก๋งของตนเองอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับรถติดตามไปเพื่อทำการจับกุม โดยเมื่อนายเทพรัตน์ฯ พบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายเทพรัตน์ฯ ได้ถอยรถยนต์เก๋งพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจนล้ม จากนั้นจึงได้ขับรถยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม จึงได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้ต้องหา จนกระทั่งทราบว่า นายเทพรัตน์ฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซอยรัชดาภิเษก 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบผู้ต้องหาขณะเดินออกจากห้องพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้รับสารภาพว่าตนเองเคยเป็นช่างไฟฟ้า แต่ติดการพนันออนไลน์ถูกตามทวงหนี้ จึงก่อเหตุลักทรัพย์ตามบ้านเรือนร้านค้าต่างๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี โดยตระเวนไปตามอำเภอต่างๆ หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามด้วยความกลัวจึงถอยรถชนเพื่อหลบหนี จากการตรวจสอบพบว่านายเทพรัตน์ฯ มีประวัติเคยถูกจับกุมคดีลักทรัพย์ท้องที่ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี 4 คดี และคดีเสพฯ และครอบครองยาเสพติด อีก 4 คดี ตั้งแต่ปี 2558 – 2566 ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ถูกนายเทพรัตน์ฯ ถอยรถชน ได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนายเทพรัตน์ฯ ข้อหาพยายามฆ่าฯ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะอายัดตัวไว้เพื่อดำเนินคดีต่อไป