รวบหนุ่มซุกปืนใต้เบาะรถ จยย. อ้างพกไว้ป้องกันตัว

วันที่ 22 พย.2566 เวลา 15.00 น. พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม รอง ผบก.น.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.รัฐชัย ศรีวิชัย ผกก.สน.ฉลองกรุง พ.ต.ท.ภูษิณธร ยี่ภู่ รอง ผกก.สส.สน.ฉลองกรุง พ.ต.ต.สมยศ นาคะ สว.สส.สน.ฉลองกรุง นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ฉลองกรุง จับกุมตัว นายนก(นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พาอาวุธปืน ไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัว และโดยไม่ได้รับอนุญาต”

พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ไทยประดิษฐ์ ขนาด 38 มม. จำนวน 1 กระบอก ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 i สีเทา ดำ มีหมายเลยเลขทะเบียน 3 ขน 5396 กรุงเทพมหานคร และลูกปืนแบลงค์กัน บรรจุไว้ในลูกโม่ จำนวน 1 ลูก โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถ จยย. บริษัทยูนิลิเวอร์ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม.

พ.ต.ท.ภูษิณธร รอง ผกก.สส. เปิดเผยว่าก่อนจับกุมในคดีนี้ได้รับนโยบายจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ระดมกวาดล้าง อาวุธปืนและสิ่งผิดกฎหมาย ช่วงใกล้เทศกาลวันลอยกระทง โดยเมื่อวันที่ 21 พ.ย.66 เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับ แจ้งว่า นายนก (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) ใช้ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 i สีเทาดำ ทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง โดยนำวัตถุคล้ายอาวุธปืนลูกโม่มาทำร้ายโดยกระแทรกบริเวณใบหน้าของผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าบริษัทดังกล่าว

ฝ่ายสืบสวนจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ขณะแอบซุ่มดูอยู่บริเวณลานจอด รถ จยย. กระทั่งพบตัวนายนก (นามสมมุติ) ขับขี่ รถ จยย.ตรงตามที่สายลับแจ้ง เข้ามาจอดบริเวณที่เกิดเหตุ มีท่าทางลุกลี้ลุกลน และมีพิรุธต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้น จนพบของกลางอาวุธปืนดังกล่าวซุกซ่อนใต้เบาะรถ จยย.ของผู้ต้องหา จึงยึดไว้เป็นของกลาง สอบสวนนายพีรพัฒน์ ให้การว่า นำอาวุธปืนมาเก็บไว้เพื่อป้องกันตัวเนื่องจากตนมีคู่อริในโรงงานเดียวกัน และวันนี้ตนได้นำอาวุธปืนของกลางซุกซ่อนไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ขับขี่มาจากบ้านพัก ย่านฉลองกรุง 53 ขับขี่มาที่ทำงาน ก่อนมาถูกจับกุมครั้งนี้

นายนก ยังให้การเพิ่มเติมว่า อาวุธปืน และลูกแบลงค์กัน ตนเองซื้อมาเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2566 โดยติดต่อซื้อทางไลน์ ในราคา 6,000 บาท โดยการจ่ายเงินผ่านการฝากเงินใส่ตู้ฝากเงินของธนาคารไปยังบัญชีของผู้ขายอาวุธปืน โดยนายพีรพัฒน์ฯ รับว่าตนเป็นคนฝากเงินใส่ตู้ธนาคาร และโอนให้ผู้ขายซึ่งจำหมายเลขบัญชีไม่ได้ จากนั้นผู้ขายได้ส่งปืนมาให้ตนเองผ่านทางพัสดุ เบื้องต้นจึงถูกนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน.สน.ฉลองกรุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป