ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว พาเดินทางจาก อ.แม่สอด มุ่งหน้าสู่ภาคใต้ ไปจุดหมายสุดท้ายมาเลเซีย
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พ.ต.อ.คงกฤช เลิศสิทธิกุล รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปรท.รอง ผบก.บก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล รรท.ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.วิศิษฎ์ มินเสน รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รรท.รอง ผกก.2 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.บุญธรรม สระสำราญ, ร.ต.ท.จรัล ภู่สวัสดิ์, ร.ต.ท.กู้ศักดิ์ ปาละกวงศ์ ณ อยุธยา รอง สว.(ป) ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม
ผู้ต้องหาที่ 1 นายฮาวายฯ อายุ 22 ปี
ผู้ต้องหาที่ 2 นายซารีฟฯ อายุ 19 ปี
โดยกล่าวหาว่า “ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ให้พ้นจากการถูกจับกุม”
ผู้ต้องหาที่ 3-17 ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าว แบ่งเป็นชาย 6 ราย หญิง 9 ราย รวมเป็น 15 ราย
โดยกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม๊ก สีขาว จำนวน 1 คัน
2. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
สถานที่จับกุม หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงวังมะนาว ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. (ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี) ได้รับแจ้งว่าจะมีการขนย้ายแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยใช้รถยนต์ส่วนบุคคลขับมุ่งหน้าไปยังเส้นทางในพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้เส้นทาง ถ.พระราม 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางกำลังโดยรอบ และออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ออกตรวจพื้นที่มาถึงบริเวณ กม.83-84 ทล.35 (ถนนพระราม 2 ขาออก) ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้ตรวจพบรถต้องสงสัย จึงได้ขับรถติดตามและให้สัญญาณให้หยุดรถ จากนั้นจึงได้ทำการตรวจสอบ โดยพบนายฮาวายฯ เป็นผู้ขับขี่ และมีนายชารีฟฯ นั่งโดยสารข้างกัน นอกจากนี้ยังพบว่าภายในห้องโดยสารและท้ายกระบะมีคนโดยสารมาด้วยจำนวนหลายคน ซึ่งจากการสอบถามคนที่โดยสารมาด้วย ทั้งหมดไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ เจ้าหน้าที่จึงได้มีการเชิญตัวมาที่หน่วยตำรวจทางหลวงวังมะนาว เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด
จากการตรวจสอบพบผู้โดยสารเป็นชายต่างด้าว จำนวน 6 คน และหญิงต่างด้าว จำนวน 9 คน รวมเป็นจำนวน 15 คน ซึ่งบุคคลต่างด้าวเหล่านี้ไม่มีเอกสารหนังสือเดินทางมาแสดง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสอบถามนายฮาวายฯ และนายชารีฟฯ โดยทั้งสองยอมรับว่า ได้รับว่าจ้างให้มาขับรถเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวจริง โดยได้รับค่าจ้างต่อหัว หัวละ 5,000 บาท โดยพวกตนได้ไปรับบุคคลต่างด้าวมาจากย่านดอนเมือง และจะพาไปส่งในพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งการขนย้ายแรงงานต่างด้างดังกล่าว พวกตนได้รับว่าจ้างมาจากนางกิน สัญชาติมาเลเซีย เพื่อนที่เคยทำงานร่วมกันที่ร้านอาหารในประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองคนยังให้การยอมรับอีกว่า เคยลักลอบขนย้ายแรงงานต่างด้าวลักษณะนี้มาแล้ว 3 ครั้ง
ในส่วนของบุคคลต่างด้าว ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานล่ามมาซักถามข้อมูลบุคคล โดยทราบว่าพวกตนได้หลบหนีเข้าเมืองมาจากประเทศเมียนมาร์ โดยผ่านเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สอด จ.ตาก จากนั้นได้มีรถตู้มารับพาเข้ามาในกรุงเทพฯ และได้เปลี่ยนมานั่งรถกระบะเพื่อจะเดินทางไปยังภาคใต้ ซึ่งปลายทางสุดท้ายคือประเทศมาเลเซีย ภายหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากท่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป