จากกรณี นายจักราวุธ อายุ 36 ปี ถูกรุมแทงเสียชีวิต ที่กลางซอยเทิดราชัน 1 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และจากการสอบถามพยานซึ่งเป็นญาติผู้เสียชีวิตทราบว่า สาเหตุเกิดจากการที่ ผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุได้มีเรื่องกันก่อนหน้าเเล้ว ก่อนเวลาเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้กลับจากซื้อของที่ตลาดกับเเฟน ระหว่างทางบริเวณกลางซอยเทิดราชัน 1 ได้ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุดักรอรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดอนมืองได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกก.สส.บก.น.2 ลงพื้นที่สืบสวนติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุดังกล่าวมาโดยตลอด
ความคืบหน้าล่าสุด เวลา 12.00 น. วันที่ 8 พ.ย. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2. พ.ต.อ.สุรพงศ์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2. ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.2 ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.2 ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายชนะพล หรือแบงค์ อายุ 21 ปี นายเอกวัฒน์ หรือโฟร์ท อายุ 24 ปี นายปฏิพัธน์ หรือจอร์จ อายุ 27 ปี นายธรรมธร หรือฟัก อายุ 23 ปี นายธนภัทร หรือดอม อายุ 23 ปี นายกฤษฎา หรือหรั่ง อายุ 20 ปี และ นายศรณ์ศิวัช หรือไอซ์ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 3855 – 3861 /2566 ตามลำดับ ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 รวม 7 คน ในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายโดยใช้อาวุธ โดยจับกุมได้ที่หน้าห้องปฏิบัติการสืบสวน สน.ดอนเมือง เมื่อเวลา 13.30 น. ( 7 พ.ย. ) ที่ผ่านมา
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากหลังเหตุการที่เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจจุดเกิดเหตุ พบเพียงผู้เสียชีวิตและญาติ แต่ไม่พบผู้ก่อเหตุ ฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง และฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.2 จึงได้ลงพื้นที่สอบถามพยานแวดล้อม รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง พบผู้ร่วมก่อเหตุรวม 12 คน และจากแนวทางการสืบสวนพบผู้ต้องหาทั้ง 7 คน มีการนำอาวุธทั้งไม้เบสบอล ท่อนเหล็ก ท่อนไม้ มาใช้ทำร้ายร่างกายนายจักราวุธ ผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 7 คนยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิดและใช้อาวุธจริง ไม่คิดว่าคู่กรณีจะเสียชีวิต และไม่ทราบว่าใครเป็นคนแทงนายจักราวุธ จนเสียชีวิต
อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวันนี้พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คนขออำนาจศาลอาญาฝากขังต่อไป ส่วนอีก 5 คนเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป