รวบทันควันคู่รักแสบ หลังร่วมแก๊งย่องเงียบลักทรัพย์ใน จ.พังงา เตรียมขยายผลทั้งขบวนการ

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบทันควันคู่รักแสบ หลังร่วมแก๊งย่องเงียบลักทรัพย์ใน จ.พังงา เตรียมขยายผลทั้งขบวนการ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พ.ต.อ.คงกฤช เลิศสิทธิกุล รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ปฏิบัติหน้าที่ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล รรท.ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รรท.รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ต.วิศิฎ์ มินเสน รอง ผกก.2.บก.ทล., พ.ต.ต.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ทล.2 กก.2 บก.ทล

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.สมศักดิ์ ทรัพย์เล็ก ,ด.ต.ไพศาล เจริญเรืองทรัพย์ ด.ต.สายัณห์ แก้วอนันต์ ด.ต.จิรวัฒน์ แตงจุ้ย จ.ส.ต.ประเสริฐ พูลคิริ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ศรีสนธิรักษ์ ส.ต.อ.สราวุฒิ ประจวบวัน ผบ.หมู่ ส.หล.2 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.ศรัณยพงค์ อ่อนสิงห์ รอง สว.ทล.ด กก.2 บก.ทล. ร.ต.ต.ญาณกฤช อิศรเมธางกูร ,ร.ต.ท.ประสิทธิชัย สุวรรณภูมิ , ด.ต.ณัฐมันท์ รางดี ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.

ร่วมกันจับกุม นายธีรวิชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี และนางสาวปาริชาต (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี กระทำผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ หรือร่วมกันรับของโจร จับกุมบริเวณป่าริมถนนเลียบทางรถไฟ และบ้านพักไม่มีเลขที่ริมถนนเลียบทางรถไฟ ต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 5 พ.ย.66 ที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย ชุดปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ได้รับประสานว่า มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่า เมื่อกลางดึกของวันที่ 4 พ.ย.66 ต่อเนื่อง 5 พ.ย.66 ขณะที่ผู้เสียหายไม่อยู่บ้าน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.พังงา เมื่อกลับมาอีกครั้งพบว่าประตูบ้านโดนงัด ภายในบ้านโดนรื้อค้น ตรวจสอบพบว่ามีนาฬิกาและเงินจำนวน 10,000 บาท หายไปพร้อมกับกุญแจสำรอง และรถยนต์ กระบะยี่ห้อฟอร์ดสีแดง ทะเบียน บพ 7615 ปราจีนบุรี ก็หายไปเช่นกัน จึงมีการประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงดำเนินการสืบสวนสกัดจับคนร้ายทันที

กระทั่งเมื่อ วันที่ 6 พ.ย.66 เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรี ได้พบรถยนต์คันดังกล่าวขับมาตามเส้นทาง ที่บริเวณ ทล.4 กม.123 ขาล่องใต้ ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จึงพยายามเรียกให้หยุด แต่เมื่อคนขับเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ขับหลบหนีทันที กระทั่งมาถึงบริเวณซอยตัน ถนนเลียบทางรถไฟ ในตัวอำเภอปากท่อ รถคันดังกล่าวได้เฉี่ยวชนคอกเหล็ก และตกหล่มจนไม่สามารถไปต่อได้ คนร้ายในรถจึงตัดสินใจทิ้งรถหลบหนีเข้าป่าไป เจ้าหน้าที่จึงรีบติดตามไป และพบ น.ส.ปาริชาตฯ นั่งหลบอยู่ในป่าใกล้ที่เกิดเหตุ จึงควบคุมตัวไว้

ภายในคืนเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากท่อ ปิดล้อมบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนจะได้รับแจ้งจากชาวบ้านในละแวกนั้นว่า มีชายต้องสงสัยเข้าไปหลบภายในบ้าน จึงรีบไปตรวจสอบพบ นายธีรวิชญ์ฯ คนขับรถคันดังกล่าว หลบซ่อนอยู่ พร้อมทั้งยังเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าของเจ้าของบ้านเพื่อใช้ตบตาเจ้าหน้าที่อีกด้วย จึงเข้าควบคุมตัวไว้

สอบถามเบื้องต้น นายธีรวิชญ์ฯ ยังให้การปฏิเสธ และไม่ยอมให้การใดๆ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นพบตั๋วจำนำทองเป็นชื่อของ น.ส.ปาริชาติฯ ผู้ต้องหาที่มาด้วยกัน นายธีรวิชญ์ฯ จึงบอกว่า ตนคบหากับ น.ส.ปาริชาติฯ และมีนายเต๊ก (ไม่ทราบนามสกุล) อายุประมาณ 27 ปี เป็นรุ่นน้องที่รู้จักกัน ร่วมเดินทางมาในรถคันดังกล่าวด้วยกัน โดยอ้างว่า นายเต๊กฯ เป็นผู้ขับรถกระบะดังกล่าวมารับตนกับแฟนสาว ก่อนที่จะมาถูกจับกุมตัวในครั้งนี้ แต่รายละเอียดอื่นๆตนไม่ทราบเรื่อง

เมื่อตรวจค้นรถยนต์กระบะฟอร์ด คันที่ถูกขโมยมายังพบว่ามีรถจักรยานยนต์ ทะเบียน 1กฉ 6343 ประจวบคีรีขันธ์ อีก1 คันบรรทุกอยู่ท้ายกระบะ และมีการแจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เมื่อ 6 พ.ย.66 อีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเพชรบุรีจึงได้จับกุมตัว นายธีรวิชญ์ฯ และ น.ส.ปาริชาติฯ ดำเนินคดีในข้อหา ‘ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร’ พร้อมนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันจะเร่งติดตามตัวนายเต๊กฯ และผู้ร่วมขบวนการที่ก่อเหตุลักรถรายอื่นมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป