ตำรวจท่องเที่ยว กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 จับกุมผู้ต้องหา ลักลอบขนยาเสพติด(คีตามีน) 66 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 16 ล้านบาท ลงใต้มุ่งหน้าจำหน่ายในแหล่งท่องเที่ยว
ตามนโยบายของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการสืบสวนปราบปรามจับกุมกวาดล้างอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวตามแผนรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชน เพื่อสนองนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล จึงได้บูรณาการร่วมกับกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สืบสวนหาข่าวและวางแผนสกัดกั้นจับกุมขบวนการลักลอบ ขนยาเสพติดจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไปยังพื้นที่ภาคใต้ โดยทราบภายหลังว่าเพื่อไปจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวตามสถานบันเทิง
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รรท.ผบช.ทท.,พล.ต.ต. ศุภเศรษฐ์ โชคชัย, พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.ม.ล.สันธิกร วรวรรณ ผบก.ทท.๑, พ.ต.อ.พัฒนา พัฒนชัย, พ.ต.อ.ศราวุธ ตันกุล, พ.ต.อ.ล้ำพรรณ พรรธนประเทศ รอง ผบก.ทท.๑, พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.๑ บก.ทท.๑, พ.ต.ท.มนพร ลิขิตมานนท์, พ.ต.ท.ปรีชา อุไรพันธ์, พ.ต.ท.ณัฐพล คนหลัก รอง ผกก.1 บก.ทท.1 รอง ผกก.๑ บก.ทท.๑
เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน กก.1 บก.ทท.1 ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.นิมิตร จรรยาลักษณ์ สว.กก.1 บกทท.1, ร.ต.ท.ขจร กลิ่นน้ำหอม, ร.ต.ท.พจนารถ โสดาธาตุ, ด.ต.เกียรติยศ ทันตจิรานุวัฒน์, ด.ต.มนัสวี จรรยาลักษณ์, ด.ต.ศราวุธ จันไทย, ด.ต.กันตภณ วีระโพธิ์, ด.ต.ชยพล วงษ์ปัน, ด.ต.เอกชัย มันตะวัตร, ด.ต.ประสบโชค พานทอง, ด.ต.จีระเดช โกฎญา, จ.ส.ต.พรพงศ์ เหมือนดำ, จ.ส.ต.ชัยสิทธิ์ โชว์สันเทียะ, จ.ส.ต.ชัยทัต วงษ์ธัญกิจ, จ.ส.ต.วัชระ วิไลลักษณ์, จ.ส.ต.เกรียงไกร จันทร์เรียง, ส.ต.อ.ทัตเทพ ทองแท่ง, ส.ต.อ.ชิษณะ เชื้อเวียง, ส.ต.อ.วิศรุต จรูญพันธ์เกษม ผบ.หมู่ กก.๑ บก.ทท.๑ ร่วมกับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน บก.ตม.1 ภายใต้การอำนวจการของ พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 , พ.ต.ท.พรชัย สุขเจริญ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1นำโดย พ.ต.ต.เจตน์ ยุทธโยธิน สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 พร้อมพวก
ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย ดังนี้นายวิพากษ์หรืออ๊อฟ โพธิ์นาง อายุ 35 ปี โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็นการกระทำเพื่อการค้า ที่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีเขียวอีกชั้นหนึ่ง มีจำนวนทั้งสิ้น 50 ถุง รวมน้ำหนักประมาณ 66 กิโลกรัม
ฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.ทท.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้สืบสวนหาข่าวจนทราบว่า มีขบวนการขนส่งยาเสพติดไปยังพื้นที่ภาคใต้ เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวตามแหล่งสถานบันเทิงต่างๆ แต่ยังไม่อาจพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและสถานที่ปลายทางได้อย่างชัดเจน จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนกระทั่งทราบว่ามีการใช้พื้นที่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ในการพักยาเสพติดดังกล่าว สำหรับรอการลำเลียงไปจำหน่ายยังพื้นที่ภาคใต้ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ รวบรวมพยานหลักฐาน ตลอดจนใช้สายลับในการสืบหาข้อมูล จนกระทั่งทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) ซึ่งเป็นสารเสพติดที่นิยมใช้ในสถานบันเทิงตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ชาวต่างชาติเสพ ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาอาชญากรรมในแหล่งท่องเที่ยวและเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และวางแผนปิดล้อมจับกุม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 26 ต.ค.66 ฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.ทท.1 และหน่วยร่วมปฏิบัติ ได้เข้าทำการปิดล้อมจับกุมตัว นายวิพากษ์หรืออ๊อฟ โพธิ์นาง อายุ 35 ปี สัญชาติไทย เลขประจำตัวประชาชน 1-8012-00108-16-8 โดยกล่าวหาว่า“มียาเสพติดให้โทษประเภท ๒ (คีตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็นการกระทำเพื่อการค้าที่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) จำนวนทั้งสิ้น 50 ถุง รวมน้ำหนักประมาณ 66 กิโลกรัม
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่าตนมีหน้าที่รับขนยาเสพติดอย่างเดียวตามคำสั่งของน.ส.โบ ซึ่งตนไม่ทราบ ชื่อ-สกุลจริง แต่พอจะทราบว่ายาเสพติดของกลางดังกล่าวจะถูกจัดส่งต่อไปยังภาคใต้ของประเทศไทยอีกทอดหนึ่ง โดยวิธีการคือ ให้ตนนำยาเสพติดที่ขนส่งไปวางตามจุดต่างๆ และจะมีผู้มารับช่วงต่อไปอีกทอดหนึ่ง ซึ่งตนยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผู้ว่าจ้างคือใคร และผู้มารับของต่อคือใคร เพราะจะติดต่อกันโดยใช้แอพพลิเคชั่นไลน์เท่านั้น ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผลนอกจากนี้ตนยังเคยขนยาเสพติดในลักษณะแบบนี้มาแล้วจำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเป็นการขนยาบ้าไปทิ้งไว้ข้างทางในเขตพื้นที่พระประแดง จว.สมุทรปราการ ได้ค่าจ้างจำนวน 30,000 บาท และครั้งนี้ขนยาเค(คีตามีน) จำนวน 66 กิโลกรัม ยังไม่ได้มีการรับเงินค่าจ้างแต่อย่างใด และทราบมาว่ายาเสพติดของกลางดังกล่าวที่ถูกนำส่งไปยังปลายทางที่ภาคใต้ของประเทศไทยนั้น จะถูกนำไปจำหน่ายต่อให้แก่นักท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวและสถานบันเทิงต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีชาวต่างชาติเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.เทียนทะเล ดำเนินคดีตามมกฎหมายต่อไป
ดังนี้ เพื่อเป็นการตัดตอนการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่ผู้ขายจะใช้โอกาสขายให้กลุ่มนักท่องเที่ยว อันเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศ และนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรมอื่น ฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.ทท.1 และ
กก.สืบสวน บก.ตม.1 จึงเข้มงวดกวดขันในการกวาดล้างจับกุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการสนองนโยบายด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาลอย่างเต็มที่ โดยหากนักท่องเที่ยวต้องการแจ้งเบาะแสหรือต้องการความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยว www.Thaipoliceonline.com หรือที่แอปพลิเคชั่นTourist Police i lert u หรือ
สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว โทร. 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง