ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รักษาราชการแทน รอง ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับใน 11 ราย ที่ถูกออกหมายจับกรณีเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ร่วมกันหลอกคุณยายวัย 82 ปี ให้โอนเงินรวมกว่า 20 ครั้ง สูญเงินกว่า 2,580,000 ล้านบาท เหตุเกิดท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 23.40 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม นายอนันต์ อายุ 27 ปี ที่อยู่เลขที่ 138 หมู่ 1 ตำบลโพธิ์แทน อำเภอองค์รักษ์ จังหวัดนครนายก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ จ.24/2566 ลงวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความซึ่งควรต้องบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ” โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซัก ถนนสนามจันทร์ ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา รับว่าตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในพื้นที่อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบอาชีพ พนักงานส่งอาหารของบริษัทแห่งหนึ่ง วิ่งรับงานในพื้นที่เมืองนครปฐม เกี่ยวกับกรณีที่ตนถูกจับกุมตามหมายจับน่าจะเป็นกรณีที่ เมื่อช่วงประมาณกลางเดือน สิงหาคม พ.ศ.2566 ตนได้เดินทางไปเปิดบัญชีธนาคารทหารไทยธนชาต เลขที่บัญชีจำได้ 4 ตัวท้าย 8325 ชื่อบัญชี นายอนันต์ สืบนาค ที่ธนาคารทหารไทยธนชาต สาขาห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีนครปฐม โดยวัตถุประสงค์ในการเปิดบัญชีเพื่อใช้เป็นบัญชีรองรับเงินเดือนของแฟน ซึ่งจะมีการโอนต่อเข้ามาพักไว้ในบัญชีหลังจากเงินเดือนออกทุกเดือน รวมทั้งเงินของตนซึ่งหาได้เป็นรายวัน เพื่อใช้เป็นบัญชีสำหรับนำไปใช้เป็นหลักฐานในการยื่นกู้ซื้อบ้าน , ยื่นผ่อนซื้อโทรศัพท์มือถือ ตลอดจนยื่นสมัครสินเชื่อเงินสดต่างๆ แต่เนื่องจากฐานเงินเดือนของแฟน และรายได้ต่อวันของตนไม่เยอะมาก ทำให้เมื่อตนและแฟนโอนเงินเดือนและเงินที่ตนหาได้รายวันเข้าไปในบัญชีดังกล่าวแล้ว จะสามารถมียอดเงินคงค้างในบัญชีดังกล่าวได้ไม่นานก็จะถอนเงินออกมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้รายการเดินบัญชี มีรายการเงินหมุนเวียนไม่คงที่ จึงคิดหาวิธีการแก้ไข ต่อมา เมื่อช่วงประมาณกลางเดือน กันยายน พ.ศ.2566 ตนและแฟนจึงได้ไปปรึกษากับผู้ใหญ่ที่ตนเคยรู้จัก ซึ่งผู้ใหญ่คนดังกล่าวได้แนะนำและรับปากว่าจะนำบัญชีธนาคารที่ตนเปิดดังกล่าวนั้น ไปใช้เพื่อปรับแต่งรายการเดินบัญชีให้คงที่ให้ ตนจึงได้มอบบัญชีธนาคารนั้นให้ผู้ใหญ่คนดังกล่าวไปใช้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายน พ.ศ.2566 เป็นต้นมา โดยได้ให้สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร พร้อมกับเปิดซิมโทรศัพท์มือถือลงทะเบียนในนามชื่อตนนำไปใช้ด้วยในคราวเดียวกัน จนต่อมา เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2566 เวลาประมาณ 13.30 น. ตนและแฟนได้เดินทางไปที่ธนาคารทหารไทยธนชาต สาขาห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีนครปฐม เพื่อจะไปเบิกถอนเงินออกไปซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ จำนวน 5,000 บาท เมื่อไปทำรายการเบิกถอนเงินที่เคาน์เตอร์ของธนาคาร ปรากฏเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าบัญชีธนาคารของตนขณะนี้ถูกอายัด จึงไม่สามารถทำรายการเบิกถอนเงินออกจากบัญชีได้ ตนจึงทราบว่าบัญชีธนาคารมีปัญหาตั้งแต่นั้น จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ตามวัน เวลา สถานที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายอนันต์ หรือไมค์ ดอนมะเกลือ ผู้ต้องหา ส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาดเนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า ณ ปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (บัญชีม้า) นอกจากนี้ ผู้เป็นธุระจัดหา จ้างผู้อื่นมาเปิดบัญชีม้าก็มีโทษหนักเช่นเดียวกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า) หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ