ตำรวจท่องเที่ยว ย้ำชัด! 3 มาตรการปราบ ทุนสีเทา-อาชกรรมข้ามชาติ ห่วงผู้ประกอบการไทย ต้องไม่ถูกเอาเปรียบ
วันนี้(3 ต.ค. 2566) พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวรักษาการผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากกรณีที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยแสดงความกังวลต่อนโยบายการเปิดฟรีวีซ่า ว่าจะทำให้มีมิจฉาชีพหรืออาชญากรจะแฝงตัวเข้ามาในรูปแบบต่าง ๆ มากขึ้นโดยแสวงหาโอกาสจากมาตรการฟรีวีซ่านั้น
ในประเด็นนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด และเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการไทยน้อยไปกว่าฝั่งนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย โดยได้มีการสั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยว 1850 นายใน 32 สถานีดำเนินการ 3 มาตรการปราบปราบหลัก ดังนี้
- ใช้ข่าวกรองนำกิจการตำรวจ โดยการให้ตำรวจท่องเที่ยวทั่วประเทศลงพื้นที่พูดคุย สืบสวน หาข้อมูลใหม่ แสวงหาความร่วมมือจากภาคเอกชนและประชาชนให้มากขึ้น หลังจากนั้นจะนำมาวิเคราะห์หาความเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลเก่า ป้องกันการก่อเหตุซ้ำ และใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด ดังนั้นแม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากเกินกว่าที่คาดการณ์ก็ไม่ถือเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของตำรวจท่องเที่ยวแต่อย่างใด
- ประสานต่างประเทศแบบไร้ร้อยต่อ ผ่านสถานฑูต และองค์การตำรวจสากล ที่มีไทยเป็นหนึ่งใน 195 ประเทศสมาชิก โดยจะเป็นการร่วมมือกันในหลากหลายประเด็น ตั้งแต่เรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวรายบุคคล ไปจนถึงการแฝงตัวขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่อาจเข้ามาในรูปแบบนักท่องเที่ยวหรือนักลงทุน ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวก็ได้ดำเนินการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
- ดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด โดยร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ติดตามสืบสวน จับกุม และผลักดันออกนอกประเทศ พร้อมขึ้นบัญชีดำ เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุ เอารัดเอาเปรียบผู้ประกอบการไทยซ้ำได้อีก
พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวว่า ในประเด็นที่ผู้ประกอบการไทยแสดงความเป็นห่วง กรณีที่นักท่องเที่ยวชาวจีนไม่เชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยในการมาท่องเที่ยวไทย ประเด็นนี้ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวก็ไม่ได้ละเลย และได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญเร่งประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นไปยังนักท่องเที่ยวชาวจีน อย่างต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนว่า ไม่ควรระบุชื่อประเทศ หรือกลุ่มเชื้อชาติ ในการเรียกกลุ่มทุนสีเทา และร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยว เพื่อให้เศรฐกิจไทยดีขึ้น ตามความมุ่งหวังของรัฐบาล