พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สรุปความคืบหน้าดำเนินคดี กรณีโกดังดอกไม้ไฟระเบิดพื้นที่มูโนะ ขยายผลดำเนินคดีบริษัทลักลอบจำหน่ายดอกไม้ไฟ-เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละละเลย
จากกรณีเมื่อวันที่ 29 ก.ค.66 เวลา 15.05 น. เกิดเหตุโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิดที่บ้านมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบได้รับความเสียหายกว่า 649 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิต 11 ราย ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 389 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 260 ล้านบาท ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สืบสวนหาสาเหตุของการเกิดเหตุระเบิดดังกล่าว รวมทั้งตรวจสอบการเก็บรักษาดอกไม้เพลิงดังกล่าว และดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลหาแหล่งที่มา ที่เก็บดอกไม้ไฟที่เกี่ยวข้อง แหล่งจำหน่ายดอกไม้ไฟ และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดดังกล่าว ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก จำนวน 3 ราย คือ
1. น.ส.ปิยะนุช (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี (เจ้าของโกดัง)
2. นายสมปอง (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี (ผู้ดูแลโกดัง)
3. นายปฐมพร (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี (ช่างรับเหมา)
ในความผิดฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันทำ สั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่งดอกไม้เพลิง โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานตามพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และร่วมกันก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ครบแล้วทั้ง 3 ราย โดยในคดีนี้ พนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องจำนวน 822 ปาก มีเอกสารในสำนวนมากกว่า 6,529 แผ่น โดยสรุปสำนวนการสอบสวนส่งอัยการจังหวัดนราธิวาสแล้วในวันที่ 18 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ จากการสืบสวนพบว่า เหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว ส่วนหนึ่งเกิดมาจากการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบการนำเข้า จำหน่าย และเก็บรักษาดอกไม้ไฟ บางรายมีการเรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐรวม 16 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 4 ราย เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 4 ราย เจ้าหน้าที่ศุลกากร จำนวน 7 รายและเจ้าหน้าที่ทหาร 1 ราย ประกอบด้วย
1. พ.ต.ท.สุพจน์ (สงวนนามสกุล)
2. จ.ส.ต.มาหาหมัดฟาโร (สงวนนามสกุล)
3. ส.ต.อ.สุทิน (สงวนนามสกุล)
4. ส.ต.อ.ต่วนอูเซ็น (สงวนนามสกุล)
5. ด.ต.รูสลาม (สงวนนามสกุล) นายก อบต.มูโนะ
6. นายซูกีปลี (สงวนนามสกุล)รรท.ผอ.กองช่างฯ
7. น.ส.สุดสาย (สงวนนามสกุล)ปลัด อบต.มูโนะ
8. น.ส.วิมล (สงวนนามสกุล)นายทะเบียน
9. นายภัทรเทพ (สงวนนามสกุล)นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
10. นายปรัชญา (สงวนนามสกุล)นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
11. นายพนมชัย (สงวนนามสกุล)นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
12. นายวรกานต์ (สงวนนามสกุล)นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
13. นายรณกฤต (สงวนนามสกุล)นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
14. นายพลวรรธน์ (สงวนนามสกุล)นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
15. นายสยุมภู (สงวนนามสกุล)นายตรวจศุลกากรท่าเรือ
16.จ.ส.อ. ชัยยะ (สงวนนามสกุล)
ดำเนินคดีในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหาย หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 16 ราย ได้รับมอบตัวและแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ดำเนินการส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.แล้วจำนวน 8 ราย อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีอีก 8 ราย
และกรณีการลักลอบจำหน่ายดอกไม้ไฟ เจ้าหน้าที่สืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า ดอกไม้ไฟในโกดังที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาได้สั่งซื้อมานั้น มาจากผู้ค้าหลายรายทั้งในเขตพื้นที่จ.สงขลา กรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นเป้าหมายมากกว่า 17 จุด ซึ่งเป็นผู้ค้า และ ผู้นำเข้าดอกไม้ไฟ จากต่างประเทศ จึงได้ตรวจยึดของกลางเป็นดอกไม้ไฟมากถึง 9,596 ลัง ซึ่งเป็นของกลางที่ลักลอกนำเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย จากเครือข่ายจำนวน 7 บริษัท จากนั้นมีการลักลอบค้าและจำหน่ายดอกไม้ไฟให้กับสมปองฯโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ประกอบด้วย
1. บ.โอเอ็นจี ทูเก็ตเตอร์ จำกัด
2. บ.ทีพีบี ไฟร์เวิร์ค จำกัด
3. ร้านเอเชีย คลองแงะ
4. บ.สุรเสียง (ประเทศไทย) จำกัด
5. บ.ไดมอนโดม จำกัด
6. บ.เคทูเค ไฟร์เวิร์ค จำกัด
7. บ.ทองทาดา จำกัด
โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน ค้าดอกไม้เพลิง โดยฝ่าฝืนคำสั่งฯ, ไม่ได้ขออนุญาตในการค้าและการขนส่งดอกไม้ไฟ, มีและนำเข้าซึ่งประทัดไฟโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการดำเนินคดีกับทั้ง 7 บริษัท อยู่ในระหว่างการสอบสวน ซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหาและรับสารภาพ แล้วบางส่วน จะดำเนินการเสร็จสิ้นในสัปดาห์หน้าทั้งหมด
ในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โกดังระเบิดดังกล่าวนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ประสานความช่วยเหลือจากหน่วยงาน 3 ส่วนด้วยกัน
1. ศอ.บต. สำหรับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในระหว่างพิจารณาหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการ หากเข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ของ ศอ.บต.
2. กองทุนยุติธรรมจังหวัด ได้รวบรวมคำขอจากญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจำนวน 389 ราย อยู่ในระหว่างพิจารณาเรื่องค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา สำหรับผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว หากเข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว จะได้รับความช่วยเหลือรายละ 200,000 บาทสำหรับผู้เสียชีวิต
3. โยธาจังหวัดนราธิวาส ในการให้ความช่วยเหลือเรื่องการซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด 649 หลัง อยู่ในระหว่างพิจารณาดำเนินการ โดยจะได้งบประมาณจากกองทุนสำนักนายกรัฐมนตรี 100 ล้านบาท เงินบริจาคของพี่น้องประชาชนอีกจำนวนประมาณ 33.9 ล้านบาท เงินช่วยเหลือจากองค์กรเอกชนและส่วนราชการ 35.3 ล้านบาท รวมถึงงบประมาณในส่วนกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยอีกจำนวนหนึ่ง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้พี่น้องชาวมูโนะได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ท่าน ผบ.ตร.เห็นความสำคัญ จึงได้สั่งการให้ควบคุมดูแลการดำเนินคดีโดยละเอียดรอบคอบ ดังนั้นจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความเสียหายดังกล่าวทั้งหมด ขณะนี้สำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวได้ดำเนินการจนเสร็จสิ้นแล้ว นอกจากมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการระเบิดจำนวน 3 รายแล้ว ได้มีการดำเนินคดีกับบริษัทที่จำหน่ายดอกไม้ไฟโดยฝ่าฝืนกฎหมายจำนวน 7 บริษัท และขยายผลดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จำนวน 16 ราย โดยจากนี้หากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับบุคคลใดเพิ่มเติมอีก ก็จะนำตัวมาดำเนินคดีจนถึงที่สุดต่อไป นอกจากนี้ ยังได้ประสานงานติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เบื้องต้นแต่ละหน่วยงานอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาหลักเกณฑ์เพื่อเร่งมอบเงินช่วยเหลือให้กับผู้เสียหาย เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูบ้านเรือนจากความสูญเสียดังกล่าวโดยเร็ว