ที่ศาลา 11 วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ครอบครัวและญาติได้จัดพิธีแสดงพระธรรมเทศนา อุทิศบุญกุศลให้แก่ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ผู้ล่วงลับ จากนั้นเวลา 10.30 น. มีพิธีสวเพระพุทธมนต์ มาติกา-บังสกุลและเวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลโดยมีญาติสนิท เพื่อนข้าราชการตำรวจมาร่วมในพิธีท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลด
ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล. เดินทางมาร่วมพิธีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. เป็นประธานในพิธี ส่วน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ติดภารกิจต่างประเทศ สั่งการให้ติดตามสถานการณ์โดยตลอด สั่งเด็ดขาดว่า ทุกคนที่เกี่ยวข้องจะมากน้อย ทุกคนต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง ตรวจสอบอย่างเข้มข้นทุกมิติ หากพฤติกรรมไม่เหมาะสม จะโยกย้ายก็เป็นอีกเรื่อง เน้นต้องให้ความเป็นธรรมแก่ สารวัตรศิวกร
รรท.บก.ทล.กล่าวว่า วันนี้ทราบข่าวว่า น่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีก ในส่วนคดีของตำรวจได้แยกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก ตำรวจที่พาคนเจ็บไป รพ. ส่วนที่สอง ให้การช่วยเหลือผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะรูปแบบใด และส่วนที่สาม เมื่อเกิดเหตุแยกย้ายหนีเอาตัวรอด ส่วนเรื่องการรวมคดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. จะดำเนินการส่ง ในส่วนคดี กระทำผิด ป.อาญา ม.157 ให้ ป.ป.ช. ส่วน ป.ป.ช.จะทำเอง หรือส่งให้ ปปป. ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ส่วนกรณีเพจเครือข่ายของกำนันนก โพสต์สร้างสถานการณ์จะชิงตัวกำนันนก ตอนนี้ได้ร่วมกับ บก.ปอท. ทำงานร่วมกันหมด ขอตรวจสอบอย่างละเอียด ถ้ามีใครทะลึ่งเดี๋ยวว่ากัน ตนไม่ทราบว่าประสงค์จะสร้างยอดวิว สร้างกระแสอะไร จากนี้ ป.ป.ช. ป.ป.ท. ป.ป.ง. ปปป. และสรรพากร จะทำงานร่วมกันหมด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า การที่ตำรวจไม่ได้คิดถึงศักดิ์ศรีความเป็นตำรวจ ไปยอมเป็นลูกน้องให้กำนัน คนร้ายยิงตำรวจต่อหน้าตำรวจ มันเป็นเรื่องไม่ปกติที่เขากล้าทำ วันนี้ตนได้สั่งการตำรวจทุกคนที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ เราต้องมีศักดิ์ศรีความเป็นตำรวจ เพราะหลายคนที่เกษียณไปแล้วรับไม่ได้กับเหตุการณ์นี้ คุณต้องทบทวนบทบาทของตัวเอง เรามีหน้าที่รับใช้ประชาชน กลุ่มตำรวจที่ไปเป็นลูกน้องกำนันมันเป็นเลือดเสียไปแล้ว ต้องเอาออกให้หมด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีประเด็นขอคุยเรื่องรถบรรทุกของกำนันนกบรรทุกน้ำหนักเกิน มีการขอคุย ขอเคลียร์ แต่สารวัตรศิวกร ไม่ยินยอม มาวันเกิดเหตุมาขอย้ายตำแหน่ง สารวัตรศิวกร ก็ไม่ยินยอมอีก ก่อนจะมาชวนดวลเหล้าออนเดอะร็อก ก็กินสู้สารวัตรศิวกรไม่ได้ ทำให้ทนเสียหน้าไม่ได้ก็เลยเกิดเหตุ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า สารวัตรศิวกร ได้ทำหน้าที่จองตำรวจจจนวาระสุดท้าย ในฐานะที่เป็นหัวหน้าหน่วย ท่าน ผบช.ก.เป็นคนสั่งให้ สารวัตรศิวกร มาดำรงตำแหน่งที่นี่ ต่างรู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้ ตนอยู่กับสารวัตรศิวกรจนถึงวินาทีสุดท้าย ตนได้เข้าไปลูบหัวบอกสารวัตรศิวกรว่า พี่ๆ น้อง ๆ จะทวงความเป็นธรรมให้ ตอนนี้ได้แล้วส่วนหนึ่ง แต่หนังเรื่องนี้มันยังไม่จบ ต้องว่ากันต่อ
จากนั้นเวลา 11.50 น. เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนศพ พ.ต.ต.ศิวกรออกจากศาลา 11 เดินเวียนรอบเมรุ 1 ท่ามกลางครอบครัวและญาติมิตร เพื่อนข้าราชการตำรวจ ทหาร มาร่วมอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
จากนั้นเวลา 12.40 น. ไฟหลวงพระราชทานได้มาถึง จากนั้นมีพิธีทอดผ้าบังสุกุล โดย ครอบครัวสายบัว , พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.บก.ทล. , ขณะที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.มีราชการสำคัญของ FBI ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มอบหมายให้ คุณรงรอง ภูริเดช ภรรยา ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลาง เป็นตัวแทนทอดผ้าบังสุกุล และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงครั้งนี้ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าของกลุ่มคนที่รับทราบข่าวมีข้าราชการตำรวจประชาชนทั่วไปและผู้ที่เป็นญาติสนิทของครอบครัวสายบัวเข้าร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพราว 1,000 คน
ต่อมาเวลา 13.00 น. ผ้าไตรบังสุกุลพระราชทานจากสมเด็จพระสังฆราช 3 ไตร ได้มาถึง โดยครอบครัว สายบัว ตั้งแถวรับ จากนั้น เพื่อ นรต.รุ่น 67 ได้ร่วมกันร้องเพลง สนสามพราน เพื่อรำลึกถึง พ.ต.ต.ศิวกร ท่ามกลางความโศกเศร้า เพื่อนบางคนถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาขณะร้องเพลง ท่ามกลางสายฝนตกลงมาปรอย ๆ
สำหรับประวัติของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว อายุ 32 ปี เกิดเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2534 ที่จังหวัดนครพนม เป็นบุตรของ ร.ท.ศิลนา สายบัว และนางทัศนัย สายบัว
มีพี่น้องร่วมบิดามารดารวม 1 คน ได้แก่ ทันตแพทย์หญิง อภิชญา สายบัว
และมีพี่น้องที่ร่วมเติบโต 2 คน ได้แก่ คุณพิมพ์นารา ศุภจรัสพัฒน์ และคุณภัชฎา อินธิโส
พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ได้สมรสกับ น.ส.เขมินทรา จิรสัจจานุกุล มีบุตรธิดา 1 คน
ประวัติการศึกษา พ.ต.ต.ศิวกร จบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 และระดับมัธยมศึกษา
ปีที่ 1- 3 จาก รร.ฤทธิยะวรรณาลัย จากนั้นได้เข้ารับการศึกษาที่ รร.เตรียมทหาร รุ่นที่ 51 และสำเร็จการศึกษาจาก รร.นรต. รุ่นที่ 67
พ.ต.ต.ศิวกรเป็นคนรักครอบครัว อัธยาศัยดี มีอารมณ์ขัน มักจะสร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้างอยู่เสมอ เป็นคนตรงไปตรงมา ใส่ใจเพื่อนฝูง จึงเป็นที่รักของเพื่อน ๆ นอกจากนี้ยังเป็นผู้มีสามารถด้านกีฬา มีใจรักในการเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก
ครั้งศึกษาอยู่ใน รร.นรต.ได้เลือกเข้าชมรมฟุตบอลอีกด้วย
ประวัติการทำงานปี พ.ศ.2557 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง พนักงานสอบสวน สน.สามเสน ต่อมาในปี พ.ศ. 2559 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองสารวัตร (สอบสวน)กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม จากนั้นในปี พ.ศ. 2562 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ต่อมาในปี พ.ศ.2563 พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ได้รับการแต่งตั้งในระดับที่ สูงขึ้น โดยดำรงตำแหน่ง สารวัตร กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม และในปี พ.ศ.2566 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง สารวัตร สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เป็นตำแหน่งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต
พ.ต.ต.ศิวกรเป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีปฏิภาณไหวพริบ มีความรับผิดชอบต่องานในหน้าที่อย่างยิ่ง มีความโอบอ้อมอารี รักพวกพ้อง รักพี่น้อง มีความอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ เป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา และเป็นที่รักของผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดระยะเวลาที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบ พ.ต.ต.ศิวกร ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจและสติปัญญา ทำงานเพื่อสร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ
การจากไปของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่ครอบครัว เพื่อนพี่น้องและเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง แม้ในวาระสุดท้ายก่อนสิ้นลม พ.ต.ต.ศิวกร ยังมี ความอดทนและเข้มแข็ง มีใจต่อสู้ที่จะมีชีวิตอยู่ โดยประโยคสุดท้าย พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว
ได้กล่าวว่า “ผมยังตายไม่ได้ ผมมีลูกน้องที่ต้องดูแล…” จะมีสักกี่คนที่แม้ในนาทีสุดท้ายของชีวิต ยังตระหนักถึงบทบาทของการเป็นนายตำรวจที่ดี การสูญเสียในครั้งนี้จึงนับว่า เป็นการสูญเสียทรัพยากรบุคคลผู้ทรงคุณค่าของประเทศชาติอีกด้วย