คุมตัว 6 นายตำรวจผู้ต้องหาคดียิง สารวัตรแบงก์ ส่งฝากขังศาลจังหวัดนครปฐม โดยมีการควบคุมเข้มท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าวบรรยากาศ ซึ่งทั้ง 6 คนไม่มีการพูดตอบคำถามสื่อแต่อย่างใด
วันนี้ 11 กันยายน 66 เวลา 09.40 น. ที่สภ.เมืองนครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมตัว 6 นายตำรวจ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม ในคดียิงพ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. หรือ สารวัตรแบงก์ ถูกยิงเสียชีวิต ในบ้านของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก โดยผู้ลงมือคือ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ลูกน้องกำนันคนดังซึ่งต่อมาถูกวิสามัญไปก่อนหน้า ซึ่งมีกองทัพสื่อมวลมาเกาะติดสถานการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้า
โดยในการควบคุมตัวครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้จัดรถควบคุมผู้ต้องหาเป็นรถติดกรงเหล็กมาจอดรอที่ด้านหน้า ซึ่งทันทีที่ ทั้ง 6 ผู้ต้องหาลงมาถึงที่ด้านหน้าได้ถูกควบคุมตัวอย่างรัดกุมและมีการขานเรียกจำนวนคนทั้งหมด เพื่อนำขึ้นสู่รถควบคุมโดยไม่มีการปริปากพูดตอบคำถามสื่อแต่อย่างใดโดยใช้เวลาเพียงไม่ถึง 5 นาทีก็สามารถนำรถออกไปยังศาลจังหวัดนครปฐม หลังจากพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไปแล้ว 48 ชั่วโมง ตามอำนาจที่มี สำหรับ 6 ผู้ต้องหาที่ถูกควบตัวในวันนี้ประกอบด้วย
1. พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข อายุ 52 ปี สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร กระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เพื่อจะช่วยผู้อื่นมีให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ช่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมีใช่ความผิดลทุโทษ
เพื่อไมให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม”
2.ร.ต.อ ณรงศักดิ์ แตงอำไพ อายุ 58 ปี บก.ทล. ข้อหากระทำความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
3.ร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล อายุ 57 ปี รอง สว.จร.สภ.เมืองนครปฐม ข้อหากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เพื่อจะช่วยผู้อื่นมีให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ช่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด
ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมีใช่ความผิดลทุโทษ เพื่อไมให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม”
4.ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร อายุ 59 ปี บก.ทล. ข้อหากระทำความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เพื่อจะช่วยผู้อื่นมีให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ช่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลทุโทษเพื่อไมให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม
5.ร.ต.ท.ประสาร รอดผล อายุ 58 ปี บก.ทล. ข้อหากระทำความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเพื่อจะช่วยผู้อื่นมีให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษ
น้อยลง ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ช่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลทุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม
6.ร.ต.ต.สรรเสริฐ ศรีสวัสดิ์อายุ 55 ปี บก.ทล. ข้อหากระทำความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต