ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุม ‘แม่เล้าคนไทย’ หลอกคนไทยด้วยกัน บังคับค้ากามต่างประเทศ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.ณัฏฐ์ สุวรรณวัฒนะ, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส, พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม., พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์, พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง รอง ผกก.กก.5 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ สว.กก.5 บก.ปคม., ร.ต.อ.หญิงพรรษาวดี คล้อยระยับ รอง สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม.
ร่วมกันจับกุม น.ส.พีชณันท์ฯ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2702/2566 ลงวันที่ 24 ส.ค.66 กระทำความผิดฐาน “เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม, ช่วยเหลือให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น, รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่น หรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณี, จัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ”
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้รับประสานจากเจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐมัลดีฟส์ เนื่องจากตรวจพบการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้าประเวณีโดยเอเยนต์คนไทยที่ส่งตัวหญิงสาวชาวไทยไปค้าประเวณีที่สาธารณรัฐมัลดีฟส์ โดยทราบว่ามีผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงชาวไทยจำนวน 2 ราย ถูก น.ส.พีชณันท์ฯ กับพวก หลอกลวงให้ไปทำงานที่สาธารณรัฐมัลดีฟส์ โดย น.ส.พีชณันท์ฯ ได้โพสต์ประกาศผ่าน facebook อ้างว่าสามารถจัดหางานนวด ซึ่งมีค่าจ้างในการทำงานเป็นจำนวนเงินกว่า 100,000 บาท ต่อมา ภายหลังเมื่อผู้เสียหายติดต่อและตกลงไปทำงานที่สาธารณรัฐมัลดีฟส์ ได้มีชายชาวบังคลาเทศพาผู้เสียหายไปหานายจ้างชาวมัลดีฟส์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองฮูลูมาเล โดยได้มีการพูดคุยตกลงให้ผู้เสียหายไปทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยตกลงให้ทำงานเป็นงานนวดเท่านั้น ไม่มีการขายบริการ แต่เมื่อผู้เสียหายเดินทางไปทำงานที่โรงแรม ผู้เสียหายกลับถูกกักขัง และถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศ ซึ่งทางผู้เสียหายทั้งสองได้พยายามหลบหนี แต่กลับถูกชายฉกรรจ์จำนวนกว่า 10 คน จับตัวหนึ่งในผู้เสียหายไปได้ ทางผู้เสียหายที่สามารถหลบหนีออกมาได้นั้น จึงได้ขอความช่วยเหลือผ่านสถานทูตไทยประจำสาธารณรัฐมัลดีฟส์ จนกระทั่งถูกส่งตัวกลับมายังประเทศไทย และหลังจากนั้นผู้เสียหายจึงได้มาร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้กระทำความผิด
โดยการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรไทย ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงได้รับมอบหมายจากสำนักงานอัยการสูงสุดให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนร่วมกับพนักงานอัยการ ซึ่งภายหลังพนักงานสอบสวนจึงได้ขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองราย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๕ บก.ปคม. จึงได้ทำการสืบสวนติดตามตัว น.ส.พีชณันท์ฯ หนึ่งในผู้ต้องหา โดยทราบว่าผู้ต้องหารายนี้จะนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินดอนเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังลงพื้นที่ เมื่อพบตัวผู้ต้องหา จึงได้ทำการจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.๕ บก.ปคม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาอีกหนึ่งรายซึ่งเป็นภรรยาของชาวมัลดีฟส์เจ้าของธุรกิจร้านนวดในสาธารณรัฐมัลดีฟส์ที่ยังหลบหนีการจับกุมอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการประสานกับเจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐมัลดีฟส์ เพื่อนำตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยต่อไปสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
