“รองโจ๊ก” ร่วมพิธีทำลายอาวุธปืนของกลาง รวมยอดกว่า 70,000 กระบอก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ร่วมพิธีทำลายอาวุธปืนของกลาง หลังคดีถึงที่สุด รวมยอดการทำลายอาวุธปืนของกลางตั้งแต่ 1 ต.ค.65 – 31 ก.ค.66 กว่า 70,000 กระบอก สั่งกำชับตำรวจเข้มมาตรการอาวุธปืนต่อเนื่องตามนโยบายรัฐบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นประชาชน

วันที่ 11 ส.ค.66 เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาเป็นประธานในพิธีทำลายอาวุธปืนของกลาง โดยมี พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร.รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส1), พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส4), พล.ต.ท.กฤษฎา สุรเชษฐพงษ์. ผบช.สกบ, พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 รรท.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี, พล.ต.ต.พงษ์พันธ์ วงศ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง, พล.ต.ต.ภพพล จักกะพาก ผบก.อก.บช.ทท., พร้อมกับนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง, นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง, นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน), นายทวันทร์ บุญยะวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด เข้าร่วมพิธีเป็นสักขีพยาน ณ โรงงานกลุ่มบริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) อ.นิคมพัฒนา จว.ระยอง

การจัดพิธีในครั้งนี้ สืบเนื่องจากตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินมาตรการปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมายทุกมิติ เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าว ได้สั่งการหน่วยระดมกวาดล้างจับกุม ขยายผล ทลายเครือข่ายอาวุธปืนผิดกฎหมาย รวมทั้งการลักลอบค้าปืนออนไลน์ พร้อมกำชับการจำหน่าย ทำลายอาวุธปืนของกลาง เพื่อป้องกันมิให้มีการนำเอาอาวุธปืนดังกล่าวกลับมาใช้ก่อเหตุในคดีอาญา หรือลักลอบจำหน่ายไปยังบุคคลไม่หวังดี ตกอยู่ในมือของคนร้าย รวมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนด้วย

ผบ.ตร. จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบการทำลายอาวุธปืนของกลาง ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ สำนักงานส่งกำลังบำรุง โดยกรมสรรพาวุธ สำรวจอาวุธปืนของกลางที่เก็บรักษาไว้ ตามคำสั่งศาลเพื่อรอทำลาย และให้สถานีตำรวจทั่วประเทศสำรวจอาวุธปืนของกลางตามระเบียบที่หน่วยงานระดับสถานีสามารถทำลายได้เองเพิ่มเติมอีกด้วย

การทำลายอาวุธปืนของกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นการนำเอาอาวุธปืนของกลาง ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาให้ริบเป็นของกลางและคดีถึงที่สุดแล้ว โดยถูกเก็บรักษาไว้ที่กองสรรพาวุธ แล้วขออนุมัติ เพื่อทำลายอาวุธปืนของกลาง โดยจะใช้วิธีการทำลายผ่านเครื่องจักรคุณภาพสูง เพื่อให้อาวุธปืนของกลางทั้งหมดสิ้นสภาพที่จะนำมาใช้งานได้ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการทำลายด้วยวิธีการดังกล่าว มีรายละเอียด ดังนี้

ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 23 ก.พ.66 จำนวน 23,387 กระบอก

ครั้งที่ 2 ในวันนี้ (11 ส.ค.66) จำนวน 10,377 กระบอก

ซึ่งการทำลายทั้งสองครั้ง จำนวน 33,764 กระบอก ได้รับความอนุเคราะห์จาก บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) สนับสนุนเครื่องจักรคุณภาพสูงในการทำลายอาวุธปืนของกลางจำนวนดังกล่าว

นอกจากนี้ยังมีอาวุธปืนของกลางอีกส่วนหนึ่งที่เข้าระเบียบที่หน่วยระดับสถานีสามารถทำลายเองได้ มีรายละเอียดการทำลาย ดังนี้

ครั้งที่ 1 วันที่ 23 ก.พ.66 สถานีตำรวจทั่วประเทศทำลายเอง จำนวน 7,176 กระบอก

ครั้งที่ 2 ในวันนี้ สถานีตำรวจทั่วประเทศทำลายเอง จำนวน 31,496 กระบอก

รวมจำนวนอาวุธปืนที่สถานีตำรวจทั่วประเทศทำลายเอง 38,672 กระบอก      

ยอดรวมอาวุธปืนของกลางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำลายตั้งแต่ 1 ต.ค.65–31 ก.ค.66 จำนวนทั้งสิ้น 72,436 กระบอก   

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า “พิธีทำลายอาวุธปืนของกลางครั้งนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน ไม่ให้มีการนำอาวุธของกลางซึ่งคดีถึงที่สุดแล้ว ออกไปใช้ในทางมิชอบ อย่างไรก็ตาม การทำลายอาวุธปืนของกลาง เป็นเพียงหนึ่งในมาตรการปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกมิติ ทั้งการระดมกวาดล้าง จับกุมแหล่งผลิต จำหน่าย โดยเฉพาะการลักลอบจำหน่ายออนไลน์ เมื่อจับกุมได้ให้ขยายผลดำเนินการกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังทุกราย รวมทั้งประสานฝ่ายปกครองในการเพิกถอนใบอนุญาต เพื่อแก้ปัญหาอาวุธปืนผิดกฎหมาย ไม่ให้นำมาก่อเหตุความรุนแรงในสังคม ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน”