กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก รอง ผกก.2 บก.ป. ,พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป. ,พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ รอง ผกก.2 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม โดย พ.ต.ท.ปรัชญ์ แม้นเดช สว.กก.2 บก.ป.,พร้อมด้วย กำลัง ชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายณัฐวุฒิฯ อายุ 35 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์” สถานที่จับกุม บริเวณอาคารจอดรถคอนโดย่าน ถ.รัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ เมื่อประมาณปี 2561 นายณัฐวุฒิฯ หรือแน็ต ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. จับกุม ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์” โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปและรับของโจรเพื่อค้ากำไร และยังพบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” และ หมายจับของศาลจังหวัดเทิง จังหวัดเชียงราย ข้อหา “ยักยอกทรัพย์” โดยนายณัฐวุฒิฯ ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งก่อนถูกจับกุมดำเนินคดี จากนั้นศาลให้ประกันตัวแล้วหลบหนีไป กระทั่งศาลอาญาได้ออกหมายจับไว้
ต่อมาเมื่อปี 2565 นายณัฐวุฒิฯ ได้ร่วมกับพวกสร้างเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า “Lap car, เอ รามอินทรา และ สยามเงินทันใจ” ซึ่งมีการประกาศในเพจเฟซบุ๊กว่า ตนนั้นรับจำนำรถยนต์โดยให้ราคาดีและดอกเบี้ยไม่สูงมีประชาชนทั่วไปหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก และนำรถยนต์มาจำนำไว้ โดยนายณัฐวุฒิฯ จะทำหน้าที่รับรถยนต์จากลูกค้า เมื่อนายณัฐวุฒิฯ ได้รับรถยนต์จากลูกค้าแล้วนั้น ก็จะนำรถยนต์ของลูกค้าไปขายต่อ ไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อลูกค้ามาทำการติดต่อขอรถยนต์คืนก็จะบ่ายเบี่ยงและตัดการสื่อสารหลบหนีไป ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ และตัวของนายณัฐวุฒิฯ เองก็ได้หลบหนีการจับกุมตัวมาโดยตลอดและเป็นตัวการในการกระทำความผิดที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับในอีกหลายพื้นที่ หลายคดี และยังคงมีพฤติกรรมกระทำความผิดแบบเดิมซ้ำๆ จนถึงปัจจุบัน
ล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สามารถติดตามจับกุมตัว นายนายณัฐวุฒิฯ มาได้ ก่อนนำส่ง สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธในชั้นจับกุม