ผบช.ภ.7 ลงพื้นที่เติมขวัญกำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชา มอบสิ่งของพร้อมกำชับนโยบายการปฏิบัติหน้าที่

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 เวลา 10.30 น. ที่สถานีตำรวจภูธรกระตีบ จว.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครปฐมตรวจเยี่ยมและขับเคลื่อนการยกระดับการบริการประชาชนของ สถานีตำรวจภูธรกระตีบ ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐ มตามนโยบายของ ผบ.ตร. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค จำพวก ถุงบำรุงขวัญ 20 ถุง ข้าวสารถุงละ 5 ก.ก. 20 ถุง มาม่า 5 กล่อง กาแฟ เบอร์ดี้ชนิดซอง 4 ห่อ กระดาษ ทิชชู 1 แพค น้ำมันพืช 1 ลัง เครื่องดื่มเกลือแร่ สปอนเซอร์ 1 ลัง อิชิตัน 1 ลัง ขนมดิวเบอร์รี่ 5 กล่อง ปลากระป๋อง 1 ลัง กาแฟกระป๋อง 1 ถาด รองเท้าแตะผู้ชาย 40 คู่ รองเท้าแตะผู้หญิง 30 คู่ รองเท้าแตะเด็ก 20 คู่ พัดลม 16 นิ้ว 3 ตัว เพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ สถานีตำรวจภูธรกระตีบ จากนั้นพล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานในการประชุม “มอบนโยบายการบริหารราชการให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด สถานีตำรวจภูธรกระตีบ

โดยมี พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.สร ซื่อตรงพานิช ผกก.สภ.กระตีบ พร้อมคณะ กต.ตร.สถานีตำรวจภูธร กระตีบ และข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธร กระตีบ คอยให้การต้อนรับการตรวจเยี่ยมและเข้าร่วมการประชุม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวในที่ประชุมโดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติ

1.นำนโยบายรัฐบาล วิสัยทัศน์ ผบ.ตร. “เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน” วิสัยทัศน์ตำรวจภูธรภาค 7 “ภักดีองค์ราชันมุ่งมั่นสร้างศรัทธา พัฒนาเป็นมืออาชีพ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม นำสมัย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา” และวิสัยทัศน์ ผบช.ภ.7 “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” ไปปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม

2.ต้องทำงานกันเป็นทีม ยึดมั่นในระเบียบวินัย บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน และดำรงตนอย่างมีเกียรติ

3.การทำงานต้องประกอบด้วย “หลักการทำงาน 4443”

4.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ คำสั่ง แบบแผนธรรมเนียมของทางราชการอย่างสม่ำเสมอโดยใกล้ชิด และสร้างขวัญกำลังใจ ความสามัคคี ภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงตามคำสั่งกรมตำรวจ ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค. 2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ

5.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การกระทำความผิดใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางวินัย คดีอาญาและปกครองอย่างถึงที่สุด

6.กำชับให้มีการฝึกทบทวนทางยุทธวิธีทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวนเป็นประจำสม่ำเสมอ ให้เกิดความคุ้นชินเมื่อต้องปฏิบัติ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่เพื่อนพี่น้องข้าราชการตำรวจ

7.ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ เป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร. ให้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ ให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อ หากพบการกระทำความผิดดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด

8.ปัญหายาเสพติดเป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร. มุ่งเน้นใช้วิธีการบำบัดยาเสพติดต่อผู้เสพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมตามนโยบายรัฐบาล โดยปฏิบัติการเชิงรุกซักถามถึงแหล่งที่มาและเครือข่าย เพื่อจัดทำฐานข้อมูลในการติดตามจับกุมและขยายผลต่อไป

9.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นมีความเข้าถึงและใส่ใจในความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัว อย่างใกล้ชิด คอยช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สิน ความเป็นอยู่ อย่าปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องเคว้งคว้างเผชิญปัญหาเพียงผู้เดียว

10.ให้ผู้บังคับบัญชาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านงานในหน้าที่ ด้านการใช้ชีวิต การครองตนให้อยู่ในศีลธรรมอันดี

11.กำชับความรักความสามัคคีในหมู่คณะ ทำงานเป็นทีม(Teamworks) เคารพซึ่งกันและกันระหว่างรุ่นพี่ รุ่นน้อง โดยให้ยึดหลักการครองตน ครองคน และครองงาน ณ.สถานีตำรวจภูธร กระตีบ ตำบล สระพัฒนา อำเภอกำแพงแสน จังหวัด นครปฐม