รวบแล้ว 1 ใน 2 คนร้าย กระชากทอง ‘เจ๊จิต จิ่มจุ่ม’ หนัก 10 บาท อ้างก่อเหตุเพราะเพื่อนเดือดร้อน

เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 7 ส.ค.66 พ.ต.อ.ธนเมศร์ วิจิตรจริยา ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.ต.บรรจบ ราชกิจ สว.สส พร้อมกำลังชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัวนายก้อง อายุ 42 ปี อาชีพขับรถส่งเอกสาร อยู่บ้านเลขที่56/224 ซ.วัดเวฬุนาราม 9 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่เลขที่ จ488/2566 พร้อมของกลาง คือ รถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ110i ทะเบียน 2ขธ3893 กทม. สีเทา- ดำ และเสื้อยืดแขนยาวสีเหลือง กางเกงขาสั้นที่ใส่ในวันก่อเหตุ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่น โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นการจับกุม เป็นเหตุ ให้ผู้อื่นรับอันตราย แก่กายและจิตใจพร้อมของกลางรถจักรยานยนต์
 
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 ก.ค.66 เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์รับแจ้งคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยนต์กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท ของนางบุปผา หรือจิต เวียงสีมา อายุ 55 ปี เจ้าของร้าน “เจ๊จิต จิ้มจุ่ม” ขณะขี่รถจยย.ไปซื้อของที่ตลาด เหตุเกิดภายในซอยติวานนท์ 24 ต.บางกระสอ อ.เมืองจ.นนทบุรี ก่อน หลบหนีไป

จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายก้องเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ที่ใช่ก่อเหตุร่วมกับนายกรพิสิษฐ์ หรือหนึ่ง อายุ 48 ปี ที่อยู่ 136/24 ม.7 ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี คนกระชากสร้อย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.489/ 2566 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่น โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นการจับกุม เป็นเหตุ ให้ผู้อื่นรับอันตราย แก่กายและจิตใจ ยังหลบหนีอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี

นายก้อง ให้การรับสารภาพว่าวันเกิดเหตุนายหนึ่ง (ผู้ต้องหาที่หลบหนี) ได้ชวนตนออกมาไหว้พระที่วัดใกล้กับจุดเกิดเหตุเมื่อไหว้พระเสร็จก็จะกลับไปเตะฟุตบอลกับเพื่อน ไม่ได้คิดว่าจะมากระชากสร้อยตั้งแต่แรก แต่พอขับรถจยย.ออกมาเจอป้าผู้เสียหายพอดีเห็นใส่สร้อยคอทองคำเส้นใหญ่ เลยลงมือก่อเหตุ โดยตนเป็นคนขับ ส่วนนายหนึ่งเป็นคนกระชากสร้อย หลังก่อเหตุได้สร้อยทองมาแล้วนายหนึ่งให้ตนนำไปขายร้านทองแถวเยาวราช กทม.ได้เงินมา 200,000 กว่าบาท ตนก็ให้นายหนึ่งทั้งหมดไม่ได้รับส่วนแบ่งแม้แต่บาทเดียวสาเหตุที่ตนร่วมก่อเหตุเพราะว่าเป็นห่วงเพื่อน นายหนึ่งบอกกับตนว่าไม่มีเงินเลยงานก็ไม่มีทำ จึงยกเงินที่ได้จากการขายทองทั้งหมดให้นายหนึ่งไปแต่ไม่รู้ว่านายหนึ่งจะนำเงินไปทำอะไร ขอยืนยันว่าตนเองกับนายหนึ่งไม่ได้เล่นการพนันและไม่ได้ติดยาเสพติดแต่อย่างใด แต่ที่ทำไปเพราะอยากช่วยเพื่อน

จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่านายก้อง ผู้ต้องหา เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อปี 2548 พื้นที่สน.ประชาชื่น และปี 2552 พื้นที่สภ.เมืองนนทบุรี