วันที่ 4 สิงหาคม 2566 ความคืบหน้ากรณีนายสุขชัย อายุ 54 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 69 หมู่ที่13 ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ รปภ. หมวดทางหลวงละหาน ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนขนาด.38 ยิงนายวิชา อายุ 72ปี อาศัยบ้านเลขที่ 181 หมู่ที่10 ตำบลบ้านค่าย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นพี่เขยเสียชีวิตก่อนที่เจ้าตัวจะขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า เอ็มสแลช สีน้ำเงิน-ดำ ป้ายทะเบียน 1กบ1163 หมวดจังหวัดชัยภูมิ มุ่งหน้าถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว ไปที่หมวดทางหลวง ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ ยิงนายพงศ์ธร อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นลูกจ้างชั่วคราวหมวดทางหลวงละหาน เสียชีวิตอีก 1 ศพ ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึก(30ก.ค.66)ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าติดตามจับกุมตัวนายสุขชัย หิรัญภาพงค์ รปภ.ปืนโหดรายนี้อย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าตัวยังคงหลบหนีการจับกุม หลังจากที่นายสุขชัยก่อเหตุเสร็จ นายสุขชัยได้ขับรถจักรยานยนต์หลบไปตามป่าอ้อย ซึ่งล่าสุดภาพจากกล้องวงจรปิดจับได้ล่าสุดบริเวณตำบลวังชมพู อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ขณะไปซื้อเนื้อ ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบเข้าไปในป่าอ้อย เมื่อช่วงวันนี้(31ก.ค.66)ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่จะตามปิดล้อม แต่เจ้าตัวใหวตัวทันหลบหนีไปได้ พบเพียงกล่องกระสุนปืนขนาด.38มีลูกกระสุนกว่า 40 นัดอยู่ในกระท่อมนา ซึ่งคาดว่าเป็นของผูัก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึด จนกระทั้งล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้ ผู้ก่อเหตุได้เปิดโทรศัพท์มือ จนทำให้เจ้าหน้าที่จับสัญญาณได้ว่าผู้ก่อเหตุไปหลบที่อำเภอเชียงแสน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบกระทั้งทราบแน่ชัดว่าผู้ต้องหาอยู่ในพื้นที่ใดจึงทำการกดดันอย่างหนักและต่อเนื่อง เนื่องจากเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนีข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ด้าน พ.ต.อ.วัฒนชัย มณฆีรรัตน์ ผกก.สส.ภ.จว.ชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาทิตย์ ฉัตรชัยรัตนเวช ผกก.สภ.อำเภอจัตุรัส พ.ต.อ.อภิรัชย์ นาทอง ผกก.สภ.บ้านค่าย ประชุมวางแผนและสนธิกำลัง ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย นำโดย พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย พ.ต.ท.พรต เศรษฐกร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.ภ.5 นำโดย พ.ต.อ.เฉลิมพล แก้ววงศ์วัน ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.5 พ.ต.ท.กำพล เยาว์ธานี กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.วชิรศักดิ์ ศรีประสม ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.5 เพื่อทำการปิดล้อมและกดดันอย่างหนัก และ กดดันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้ประสานทางญาติเพื่อเกลี่ยกล่อมไม่ให้ผู้ต้องหาออกนอกพื้นที่ หรือ ข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน กระทั้งผู้ต้องหาติดต่อขอเข้ามอบตัวที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ต้องหาขึ้นรถจากอำเภอเชียงแสนมาที่กรุงเทพ ระหว่างทางจะไม่ขอเข้าจับกุมเนื่องจากเกรงจะเกิดอันตรายกับผู้โดยสาร หรือ เจ้าหน้าที่เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธ จึงปล่อยให้ผู้ต้องหาเดินทางมา และทำการซุ่มรอบริเวณภายในขนส่งหมอชิต ก่อนที่จะพบตัวหลังลงจากรถและสะกดรอยตามมา พอสบโอกาสจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนคุมตัวไปทำบันทึกการจับกุมที่ สน.บางซื่อ และ ควบคุมตัวมายัง สภ.บ้านค่าย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เพื่อทำการสอบสวนพร้อมทั้งแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาทั้ง 2 สภ.
ล่าสุด(4ส.ค.2566) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเอก ผู้ต้องหาในคดีฆ่าพี่เขยและเพื่อนร่วมงานตาย 2 ศพ มาถึง สภ.บ้านค่าย เวลา 09.00 น. และได้นำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม โดยผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าตนเองได้ก่อคดีในครั้งนี้เนื่องจากสาเหตุว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เคยมีปากเสียงทะเลาะกันจนตนเอง รู้สึกอัดอันใจมาโดยตลอดจึงก่อเหตุขึ้นเพราะความโกรธ และฝากผ่านคำขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้เสียชีวิตและญาติผู้เสียชีวิตและทุกคนที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ช่วยตัวเองพร้อมที่จะยอมรับผิด ก่อนที่จะนำตัวไปทำแผนด้วยความเรียบร้อย