ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินการสืบสวนป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียหรืออันตรายต่อประชาชนทั่วไป และ พ.ร.บ.อื่น ๆ ที่มีโทษทางกฎหมาย ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการ กก.ดส. บช.น. สืบสวนจับกุม โดยในวันที่ 2 สิงหาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.ชุดปฎิบัติการที่ 5 เข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 545/44 หมู่บ้าน อิเธอร์นิตี้ ทาวน์ พริมโรส วัชรพล ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ตามหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ที่ ค.512/2566 ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2566 พบนายวัฒนาอายุ 36 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 916/2566 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 22566 ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงและพบนางสาวสโรชา อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ เป็นจำนวน 4 หมายจับ
หลังทำการจับกุม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงทำการตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการฉ้อโกงดังกล่าว จากการสอบถามจากผู้เสียหาย และทำการตรวจสอบผ่าน เว็บไซต์แบล็คลิส พบข้อมูลการฉ้อโกงฯ ของนายวัฒนา ทั้งหมด 7 รายการโดยผู้ต้องหาได้รับโอนผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขบัญชี 4181380549 และบัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 0922496463 โดยยอดมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวน 6,136,731 บาท ซึ่งพฤติกรรมการหลอกลวงของผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นผู้รับเหมาถมดิน ในเขตพื้นที่ปทุมธานีและปริมณฑล ได้เปิดกิจการในรูปแบบนิติบุคคล โดยใช้ชื่อว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทยวัฒนา 2019 มีนางสาวสโรชา และนายวัฒนา เป็นหุ้นส่วน โดยได้ใช้เพจเฟซบุ๊ก ชื่อ ถมดิน หจก.ไทยวัฒนา 2019 และ Wattana Jiv Thaiwattna และช่องทางยูทูป ชื่อ ไทยวัฒนา2019CHANNEL ในการประกาศเพื่อรับทำการถมดินเพื่อหลอกลวงเงินโดยไม่มีการถมดินจริง
