จนท. เข้าปิดล้มไล่ล่า “โจรใต้” ลอบก่อเหตุวางระเบิด “รถทหาร” ส่งผลให้ ตร.ดับ 1 ทหารได้รับบาดเจ็บ 5 นาย
เมื่อเวลา 10.00 น. (3 ส.ค.66) พ.ต.อ.ธีรพจน์ ยินดี ผู้กำกับการ สภ.ยะหริ่ง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบเหตุลอบวางระเบิดบนถนนสายนราธิวาส-ปัตตานี หมู่ 3 ต.ตันหยงดาลอ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 6 ล้อของทหาร ป้ายกงจักร 3036 ในสภาพรถด้านหน้าพังเสียหาย กระจกแตก ล้อขวาด้านหน้าแตก พบเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย โดยหนึ่งในนั้นถูกสะเก็ดระเบิดที่ใบหน้าและลำตัวหลายแห่งอาการสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลยะหริ่ง ทราบชื่อ คือ ส.อ.ศุภกร ศิริเสถียร ทำหน้าที่พลขับ โดยแพทย์พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ ก่อนที่ ส.อ.ศุภกร จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนผู้บาดเจ็บ 5 นาย แพทย์ทำการรักษาจนอาการปลอดภัยแล้ว ประกอบด้วย จ.ส.อ.สถาพร กล้าจริง, พลทหารเจษฎา คงโต, พลทหารพัชรพล วิจิตรโสภา, พลทหารธรรมรัก จิ้วบุญชู และ พลทหาร ไตรวิชญ์ นุ่นด้วง นอกจากนี้ยังมีประชาชนถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ทราบชื่อ คือ นายมะการิง สามะ อายุ 50 ปี และ นายอับดุลรอฮิง หามะ อายุ 51 ปี เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมพบหลุมระเบิดอยู่บริเวณโค้นต้นไม้ใกล้เกาะกลางถนน โดยมีสะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทหารชุดดังกล่าวเดินทางมาจาก กองพันทหารราบที่ 151 ค่ายกัลยานิวัฒนา อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยมี จ.ส.อ.สถาพร กล้าจริง เป็นหัวหน้าชุด นำกำลังมารับสิ่งของเพื่อนำไปสนับสนุนกำลังพลภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ปรากฏว่าเมื่อถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายที่แอบซุ่มอยู่ได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ซึ่งซุกซ่อนที่โคนต้นไม้ใกล้เกาะกลางถนน จนเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ทั้งนี้ ส.อ.ศุภกร ศิริเสถียร พยายามแข็งใจขับรถหลบหนี แต่ใบหน้าละลำตัวถูกสะเก็ดระเบิดหลายแห่งทำให้หมดสติ ก่อนที่รถจะเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า ก่อนที่รถจะแฉลบข้ามไปอีกฝั่งถนน ต่อมาพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือโดยนำตัวผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์รักษาโดยเร่งด่วน
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ขจรศักดิ์ อินทร์ทอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี สั่งการให้เจ้าหน้าที่กระจายกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เกิดเหตุในรัศมี 500 เมตรทันที เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายซึ่งเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ โดยมีแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ก่อเหตุหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งขยายผลเพื่อดำเนินการจับกุมกลุ่มผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
