กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อริยพล สินสอน รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.วิศิษฐ์ พลบม่วง ผกก.1 บก.ปทส., พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ, พ.ต.ท.เอกพล ปัญจมานนท์ รอง ผกก.1 บก.ปทส.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. พ.ต.ต.สรัล ยศพลพิเนต สว.กก.1 บก.ปทส., ร.ต.อ.เมธานันท์ ไกรอานนท์ รอง สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส.
ร่วมจับกุม นายธนวัฒน์ฯ อายุ 50 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” ตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ 77/2563 ลงวันที่ 15 ก.ค.2563 สถานที่ทำการจับกุม บริเวณริมถนนพระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากช่วงปี พ.ศ.2562 นายธนวัฒน์ฯ อ้างตัวเป็นนักธุรกิจและทนาย ร่วมกับเพื่อนผู้ก่อเหตุ เสนอให้ผู้อื่นมาร่วมลงทุนธุรกิจโรงแรม และท่าจอดเรือยอร์ช ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยหลอกเหยื่อว่ามีนายทุนจากประเทศดูไบ และรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุน อ้างตนเป็นทนายที่ถูกว่าจ้างให้มาทำหน้าที่ดูแลเอกสารและด้านกฎหมาย รวมทั้งมีการหลอกลวงเหยื่อที่หลงเชื่อให้ไปลงทุนในโครงการประมูลสัมปทานรถโดยสารประจำทางในอำเภอต่างๆ มูลค่าความเสียหายกว่าสี่ล้านบาท ซึ่งความเป็นจริงแล้วกลุ่มผู้ก่อเหตุของนายธนวัฒน์ฯ ได้หลอกลวงให้ลงทุนนี้ ไม่มีเจตนานำเงินจากเหยื่อไปลงทุนตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด จนผู้เสียหายได้ไปร้องทุกข์ต่อศาลเพื่อออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สืบทราบว่า นายธนวัฒน์ฯ ได้หลบหนีหมายจับศาลจังหวัดชุมพร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2563
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สืบทราบว่า นายธนวัฒน์ฯ จะมาทำธุระในพื้นที่ริมถนนพระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมนายธนวัฒน์ฯ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวส่งศาลจังหวัดชุมพร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การเบื้องต้น รับสารภาพว่าได้นำเงินผู้เสียหายมาจริง โดยเอาเงินไปใช้หมดแล้ว ซึ่งตนก็ทราบว่าตัวเอง มีหมายจับตั้งแต่ ปี พ.ศ.2563 และหลบหนีเรื่อยมา
