รวบแล้ว 4 โจ๋ ดักซุ่มยิงคู่อรินักเรียนชายชั้น ม.5 ดับ

ตำรวจสภ.กุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ตามรวบ 4 โจ๋ อายุ 16-18 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืน หลังร่วมกันก่อเหตุดักซุ่มยิงนักเรียนชายชั้น ม.5 วัย 16 ปีเสียชีวิต เบื้องต้นรับสารภาพก่อเหตุจริง อ้างแสดงความเป็นเจ้าถิ่นในหมู่บ้านของตนเอง ก่อนเกิดเหตุได้ท้าทายกันทางเฟซบุ๊ค ตำรวจเตรียมประสานทีมสหวิชาชีพสอบปากคำ และแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ความคืบหน้านักเรียนชายชั้นม.5 วัย 16 ปี ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ถูกกลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้านดักซุ่มยิงเสียชีวิต และเพื่อนได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านคุย ต.สามขา อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีการอัดคลิปท้าท้ายกันและกล้องวงจรปิดจับภาพขณะถูกยิงตกจากรถจักยานยนต์

ล่าสุดวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เข้าติดตามคดี และจากากรสอบสวนทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นทั้งสองฝ่ายที่มีเรื่องกันมีอยู่ประมาณ 20 กว่าคน ทั้งนี้ล่าสุดชุดสืบสวนสภ.กุฉินารายณ์ นำโดย พ.ต.อ.บัณฑิต สิงหประชา ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ได้ติดตามตัววัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุ และร่วมกันลงมือยิงนักเรียนชายได้ครบแล้ว 4 คน อยู่ในพื้นที่ ต.สามขา อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ตำบลเดียวกันกับผู้เสียชีวิต แต่คนละหมู่บ้าน ประกอบด้วย นายต้น อายุ 18 ปี อีก 3 คน เป็นเยาวชนชายอายุระหว่าง 16-17 ปี เรียนอยู่ในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก อาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก และอาวุธปืนพกสั้น บีบีกัน ยี่ห้อเอสเค 1 กระบอก

พล.ต.ต.สุวรรณ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนพยานและสอบถามทั้ง 4 คน เบื้องต้นทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุจริง เพราะก่อนหน้านี้มีเรื่องทะเลาะกันมาบ่อยครั้ง เนื่องจากต่างฝ่าย ต่างแสดงความเป็นเจ้าถิ่นในหมู่บ้านของตนเอง และก่อนเกิดเหตุได้ท้าทายกันทางเฟสบุ๊ค นัดต่อยกัน จากนั้นกลุ่มผู้เสียชีวิต ซึ่งมากกว่ากลุ่มคนยิง ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในหมู่บ้านคำโพน ก่อนถูกกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นดักซุ่มอยู่บริเวณประตูโรงเรียนยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

ทั้งนี้เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะได้สอบปากคำนายต้น อายุ 18 ปี หนึ่งในผู้ก่อเหตุ แต่เนื่องจากมีผู้ต้องหา 3 คน ที่ก่อเหตุยังเป็นเยาวชน พนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จะทำการประสานไปยังสำนักงานอัยการจังหวัด และทีมสหวิชาชีพ เพื่อร่วมสอบสวนปากคำ และจะทำการแจ้งข้อหาทั้ง 4 คน มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และนำตัวดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และคอยอบรมตักเตือน ส่วนเยาวชนเองก่อนจะทำอะไรก็ต้องมีสติ และให้นึกถึงคำสั่งสอนของพ่อ แม่ และครูบาอาจารย์ เพราะหากก่อเหตุและผิดพลาดไปนอกจากจะถูกดำเนินแล้วยังเสียโอกาสของอนาคตตนเองด้วย