“รองโจ๊ก” สั่งเร่งรัดคดีที่ได้รับร้องเรียน ทั้งกรณีร้านเฟอร์นิเจอร์-หลอกกู้เงิน พร้อมเผยความคืบหน้าคดีรีดทรัพย์เเก๊งพนัน 140 ล้าน ล่าสุดออกหมายจับเพิ่ม 4 ราย ทั้งคนมีสีเเละพลเรือน เตรียมเเถลงปิดคดีเร็วๆนี้
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนเข้าประชุมว่า ปัจจุบันมีขบวนการหลอกลวงเงินหลายรูปเเบบ ประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ซึ่งวันนี้ได้รับการร้องเรียน 2 เรื่อง เกี่ยวกับการหลอกลวงทั้งสิ้น โดยเรื่องเเรก กรณีร้านเฟอร์นิเจอร์ในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม 2 ร้าน ที่โอนเงินเเล้วไม่ได้ของ คดีนี้ไม่ได้ซับซ้อนเป็นการเปิดให้สั่งสินค้า เมื่อโอนเงินแล้วไม่ได้ของตามที่ตกลงกันไว้ ทราบว่ามีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก บางส่วนเคยเข้าร้องเรียนกับกองปราบเมื่อ 1 เดือนที่เเล้ว แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า ดังนั้นวันนี้จะได้ประชุมเร่งรัดคดี ซึ่งได้เชิญผู้กำกับการ สภ.บางเลน จังหวัดนครปฐม มาร่วมประชุมด้วย
ประเด็นต่อมา คือเรื่องหลอกให้รักหลอกให้หลง แล้วไปกู้เงินจนเป็นหนี้ประมาณ 5 ล้านบาท หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบรายละเอียดพฤติกรรม ว่าทำอย่างไร ทำเป็นขบวนการหรือไม่ ก็จะเร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ขอฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ว่าปัจจุบันมีรูปแบบการหลอกลวงทางไซเบอร์เป็นจำนวนมาก ก่อนจะโอนเงินให้ใครหรือทำธุรกรรมทางการเงิน ควรจะตรวจสอบให้ดี มิเช่นนั้นอาจตกเป็นเหยื่อ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีรีดทรัพย์เเก๊งพนัน 140 ล้านบาท เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่ม 4 ราย มีทั้งคนมีสีเเต่ไม่ใช่ตำรวจ เเละพลเรือน จับกุมได้เเล้ว 3 ราย มี 1 ราย ที่ยังจับไม่ได้คือนายเจ ซึ่งทั้ง 4 รายนี้ เป็นตัวเริ่มขบวนการ ซึ่งผลของการสืบสวนตอนนี้ทางตำรวจได้ไล่จนถึงต้นทางเเล้ว ว่าเรื่องนี้เกิดจากตัวนายเป้ เคยเป็นลูกน้องของกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้ และมีการขัดแย้งกันเรื่องผลประโยชน์ของเว็บพนัน จนนำไปสู่การอุ้ม ไปเพื่อจะรีบเอาเงิน ที่ยังค้างค่ากันอยู่ แต่เมื่อกระทำไปแล้วถึง 3 ครั้ง มีการทำข้อมูลเท็จมาหลอกในเป้ เเต่ไม่สำเร็จ จึงติดต่อกับทีมตำรวจ จึงมีการนำตัวในเป้ไปที่ทำการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และมีกลุ่มตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยหลังจากนี้จะเร่งจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือให้ครบ จากนั้นก็จะแถลงปิดคดีด้วยตัวเอง
