โผล่รายวัน!!! เหยื่อแก๊งทำบัตรประชาชนปลอม สูญเงินนันแสนบาท

โผล่รายวันเหยื่อแก๊งทำบัตรประชาชนปลอม เข้าร้องทุกข์กับหัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ หลังถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นปลัดนนทบุรี หลอกทำบัตรประชาชนให้กลุ่มไม่มีสถานะทางทะเบียน ผู้เสียหายสูญเงินนันแสนบาท ลำบากต้องมาใช้หนี้ให้ญาติ พอทวงเงินไปแม่กับเมียที่ป่วย ถูกบล็อกการติดต่อ ขณะเดียวกันพบมิจฉาชีพอีกกลุ่มตั้งเพจรับทำบัตรประชาชนนำรูป มท.1 โชว์หราไม่กลัวความผิด 

นายบอย นามสมมุติ อายุ 40 ปี กลุ่มบุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ขัวมุง อ.สารภี นำเอกสารประกอบด้วยสลิบการโอนเงิน ภาพถ่าย และข้อความแชทพูดคุยกับนางสาวนก นามสมมุติ อายุประมาณ 50 ปี เข้าร้องเรียนกับนายบุญญฤทธิ์  นิปวณิชย์  หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ หลังถูกนางสาวนกฯที่ได้แอบอ้างว่าเป็นปลัดอำเภออยู่ในพื้นที่ จังหวัดนนทบุรี เข้ามาตีสนิท ก่อนจะพูดจาเกลี้ยกล่อมว่ารู้จักผู้ใหญ่ในกระทรวงมหาดไทยหลายคนและสามารถช่วยเหลือให้มีบัตรประจำตัวประชาชนได้จนผู้เสียหายเชื่อและยอมจ่ายเงินสดให้และโอนเงินอีกหลายครั้งรวมเป็นเงินกว่าเกือบแสนบาท

นายบอยฯ เปิดเผยว่า เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสได้รู้ จักกับนางสาวนกฯที่แฝงตัวมาอยู่ในกลุ่มชมจิตอาสา แห่งหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้ความช่วยเหลือกลุ่มชาติพันธุ์ ก่อนจะตีสนิทกับพวกตนที่เป็นชาวไทใหญ่ ในช่วงที่ร่วมกิจกรรมของชมรมฯ และพูดจาหว่านล้อมว่าสามารถช่วยเหลือกลุ่มผู้ที่ ไม่มีสถานะทางทะเบียนในการทำบัตรรประชาชนโดยอ้างว่าเป็นปลัดอำเภออยู่ในพื้นที่นนทบุรี และรู้จักกับผู้ใหญ่ในกระทรวงมหาดไทยแต่ต้องมีค่าใช้จ่ายให้ผู้หลัก ผู้ใหญ่เพื่ออำนวยความสะดวก จนทำให้ตนและเพื่อนๆหลายคนหลงเชื่อ ต่อมานางสาวนก ได้นัดให้ตนกับเพื่อนๆอีก 3 คนนำเงินไปมอบให้นางสาวนกฯ คนล่ะ 1 หมื่น 5 พันบาทเป็นค่า ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.แม่ริม  ต่อมานางสาวนก ได้เรียกเงินค่าดำเนินการหลายๆอย่างตนได้ยืมเงินจากญาติพี่น้องโอนให้ครั้งล่ะ 2-3 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 9 หมื่น 4 พันบาท เวลาผ่านไปหลายเดือนไม่เห็นวี่แววว่าว่าจะได้บัตรประชาชนอย่างที่นางสาวนกได้กล่าวอ้างตนจึงพยายามติดตามทวงเงินแต่กลับถูกข่มขู่ว่าหากนำเรื่องดังกล่าวจะทำให้กลุ่มคนไทใหญ่ พวกตนไม่มีที่อยู่ในประเทศไทยและอ้างว่ามีพี่ชายที่รู้จักผู้ใหญ่ระดับสูง จึงทำให้ตนและเพื่อนหวาดกลัวไม่มีใครกล้าแจ้งความ ต่อมาแม่ และภรรยาของตนล้มป่วย และไม่มีเงินรักษาตนจึงได้ติดต่อกับนางสาวนก เพื่อขอเงินคืนแต่ได้รับการปฏิเสธอ้างว่าได้ให้กับผู้ใหญ่จนหมดแล้วพร้อมกับบล็อกการติดต่อกับตนทุกช่องมาง จึงแก้ปัญหาด้วยการหยิบยืมเงินจากญาติๆคนละ 100-200 เพื่อนำเงินมารักษาตัวแม่และภรรยา ทำให้ทุกวันนี้ตนต้องแบกภาระหนี้สินที่ยืมจากญาติๆนับแสนบาทได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากเนื่องจากมีรายได้น้อย

นายบุญญฤทธิ์  นิปวณิชย์  หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากกรณีของผู้เสียหายคนดังกล่าวทราบว่าได้มีการพบกับตัวของบุคคลที่แอบอ้างดังกล่าวและมีหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีตรงของนางสาวนก ซึ่งหลังจากนี้จะได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม ต่อไป

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลักษณะดังกล่าวตนทราบว่ามีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากที่ถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวแอบอ้างผู้บริหารในกระทรวงหลอกลวง แต่ผู้เสียหายไม่กล้าออกมาแสดงตัวเนื่องจากถูกข่มขู่ บางส่วนไม่รู้กฎหมาย ทำให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวย่ามใจก่อเหตุลักษณะดังกล่าว ซึ่งล่าสุดมีคนส่งข้อมูลว่ามีการเปิดเพจ หรือแฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่ม ชมรม มูลนิธิ ต่างๆที่ให้ความช่วยเหลือกลุ่มชาติพันธ์ รวมถึงกลุ่มบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนเพื่อเข้าไปตีสนิทและล่อลวงแอบอ้างว่ารู้จักผู้หลัก ผู้ใหญ่ ก่อนจะหลอกว่าสามารถให้ความช่วยเหลือเรื่องต่างๆได้และกับจ่ายเงินให้กับผู้ใหญ่ที่นำมาอ้าง 

ส่วนความคืบหน้ากรณีมิจฉาชีพปลอมโปรไฟล์แอบอ้างเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย หลอกทำบัตรประชาชนให้กับกลุ่มผู้ที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน คริสตจักรดงป่าก่อ ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด 23 ราย ถูกหลอกโอนเงินกว่า 5 แสนบาท หลังจากนั้นผู้เสียหายทั้งสองเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ดอยสะเก็ด ล่าสุดพันตำรวจเอกธงชัย  กรรณิกา ผู้กำกับการ สภ.ดอยสะเก็ด เปิดเผยว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ดอยสะเก็ด เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่หลังผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลว่ากลุ่มมิจฉาชีพได้นำบัตรประจำตัวประชาชนปลอมมามอบให้ผู้เสียหายที่หลังที่ว่าการอำเภอดอยสะเก็ด และขอคืนในวันต่อมา ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ทราบตัวและกลุ่มบุคคลที่ผู้เสียหายโอนเงินให้และได้มีการสั่งอายัดบัญชีธนาคารไว้เรียนร้อยแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งแกะรอยเพื่อติดตามตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด