สตม. ลุยต่อเนื่อง ไปจีนแก้ปัญหาอาชญากรรมคนจีนเข้ามาก่อเหตุกับคนจีนด้วยกันโดยใช้ไทยเป็นแหล่งก่อเหตุ ตามสั่งการ ผบ.ตร.
สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการผ่าน พล.ต.ท. ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธ์ุ ผบช.สตม. ให้หาแนวทางมาตรการในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมคนจีนเข้ามาก่อเหตุกับคนจีนด้วยกันโดยใช้ไทยเป็นแหล่งก่อเหตุ แล้วหลบหนีออกนอกประเทศ รวมถึงมีบางส่วนเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อหลบหนีการกระทำความผิดมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศต่างๆ เข้ามาในประเทศไทย อีกทั้งบางส่วนมีพฤติกรรมเข้ามาก่อตั้งรกรากแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด และประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย อันเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. และคณะ เดินทางไปประชุมหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน เมื่อต้นเดือน พฤษภาคม 2566 นั้น ทาง สตม. ได้มีการจับกุมคนจีนได้จำนวนหลายราย ตามที่สาธารณรัฐประชาชนจีนแจ้งข้อมูลการกระทำผิดมา
เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผบ.ตร. ได้สั่งการผ่าน ผบช.สตม. ให้พล.ต.ต.พันธนะฯ ไปประชุมแสวงหาความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนข้อมูลเพิ่มเติม กับเจ้าหน้าที่ตำรวจมณฑลต่าง ๆ ที่สำคัญในสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกครั้ง เพื่อหาแนวทางในการสกัดกั้น และป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีประวัติในการกระทำความผิด หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยผ่านตามช่องทางสนามบินและช่องทางด่านต่างๆทั่วประเทศ รวมถึงติดตามจับกุมผู้ที่มีหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้จัดประชุมในวันที่ 8-12 กรกฎาคม 2566 ซึ่งในครั้งนี้ได้เดินทางไปที่ เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน และได้มีการร่วมประชุมกับ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ (MPS) สาธารณรัฐประชาชนจีนโดยกรมรักษาความปลอดภัยสาธารณะยูนนาน (PSD) มณฑลยูนนาน หน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ มณฑลยูนนาน, กองสืบสวนสอบสวนคดีอาญา, กองสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และศูนย์ประสานงาน 4 ประเทศ
ผลการประชุมหารือได้รับความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละหน่วยเป็นอย่างดี โดยในครั้งนี้ที่ประชุม ได้มีความเห็นว่าให้นำผู้ปฏิบัติงานจริงมาแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้นำไปสู่ผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง และจะมีการรวบรวมข้อมูลอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยมาหารืออีกครั้งในคราวต่อไป รวมทั้งทางตำรวจสาธารณรัฐประชาชนจีนยังได้ประสานข้อมูลผู้ต้องหาที่มีหมายจับที่สำคัญและมีข้อมูลว่าหลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทยให้ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทยช่วยสืบสวน ติดตาม จับกุมให้ จำนวนหลายเป้าหมายและมีการประสานงานร่วมกันเพื่อส่งข้อมูลผู้ต้องหาที่มีหมายจับในสาธารณรัฐประชาชนจีนให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไทยลงข้อมูลในระบบเพื่อแจ้งเตือน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการสกัดกั้นไม่ให้ผู้ต้องหาเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย ในลักษณะดังกล่าวได้อีก
นอกจากนี้ทางตำรวจสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทยสำหรับความร่วมมือเป็นอย่างดีที่ผ่านมา ที่ให้ความร่วมมือช่วยสืบสวน จับกุมผู้ต้องหาที่มีหมายจับคดีสำคัญของทางการจีนมาดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นจำนวนมาก