“รองโจ๊ก” แถลงความคืบหน้า การช่วยเหลือคนไทยถูกหลอกไปทำงานเมืองป๊อก เมียนมา สั่งดำเนินคดีนายหน้า

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.66 ได้มีญาติของผู้เสียหายได้ขอความช่วยเหลือกรณีกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 5 คน ถูกหลอกไปทำงานค้าประเวณีที่เมืองป๊อก ประเทศเมียนมา ซึ่งหลังจากที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง (ศพดส.ตร.) ได้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายทั้ง 5 ราย ให้กลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้วนั้น

กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศพดส.ตร. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการนำตัวผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการกลไกส่งต่อระดับชาติ (NRM) เพื่อคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือดูแลผู้เสียหายในช่วงระหว่างการดำเนินการ รวมทั้งดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงผู้เสียหายไปทำงานค้าประเวณีดังกล่าวจนถึงที่สุด เบื้องต้นได้พาผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.แม่สาย ภ.จว.เชียงราย แล้ว

จากการซักถามข้อมูลจากผู้เสียหายทราบว่า กลุ่มผู้เสียหายแต่ละคนได้ถูกชักชวนผ่านทางเฟซบุ๊ก เพื่อไปทำงานเป็นพีอาร์ที่ร้านอาหารในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา โดยให้เดินทางออกไปยังประเทศเมียนมาผ่านทางด่านแม่สาย จ.เชียงราย จากนั้นจะมีชาวเมียนมาขับรถมารับเพื่อเดินทางไปยังที่ทำงาน เมื่อถึงสถานที่ทำงานพบว่าถูกพามายังเมืองป๊อก ผู้เสียหายถูกยึดหนังสือเดินทางและบังคับให้ทำงานค้าประเวณี ผู้เสียหายไม่อยากทำงานดังกล่าวจึงได้ขอกลับบ้าน แต่ผู้ควบคุมได้แจ้งว่าต้องนำเงินมาไถ่ตัวเองจำนวน 350,000 บาท กลุ่มผู้เสียหายจึงได้พยายามติดต่อญาติที่ประเทศไทยเพื่อขอความช่วยเหลือ จนสามารถเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย

จากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้าหลอกลวงผู้เสียหายไปทำงานดังกล่าวคือ น.ส.อุไรลักษณ์ หรือโมเม (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี สัญชาติไทย จึงได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดเชียงราย เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใด พาหรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักร ในส่วนของผู้เสียหายเบื้องต้นได้รับการดูแลของมูลนิธิศูนย์ชีวิตใหม่ในระหว่างดำเนินการ อยู่ระหว่างติดตามจับกุมผู้ต้องหาต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวหลังจากที่ได้รับข้อมูลว่ามีการขอความช่วยเหลือจากญาติของผู้เสียหายแล้ว ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานไทย-เมียนมา เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายให้กลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย จากนั้นก็นำผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการกลไกส่งต่อระดับชาติ (NRM) เพื่อคัดแยกผู้เสียหายและให้การช่วยเหลือเยียวยาในลำดับแรก เบื้องต้นทั้งหมดเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และได้สืบสวนขยายผลจนสามารถออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องซึ่งเป็นนายหน้าหลอกลวงผู้เสียหายไปทำงานได้แล้ว 1 ราย เป็นคดีของ สภ.แม่สาย อยู่ระหว่างติดตามจับกุมผู้ต้องหา จากนี้จะให้ขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด