ณ สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ก.ค. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ นำผู้เสียหายเป็นหญิงที่ถูกนายจิรากร เฉลยสุข ผู้ต้องหาหลอกให้รักก่อนลวงหญิงสาวกว่า 20 ราย ออกอุบายให้ออกรถยนต์ป้ายแดงมาทำธุรกิจรถเช่า สุดท้ายเชิดรถหลบหนีไปทั้งคนทั้งรถ ผู้เสียหายต้องถูกดำเนินคดี มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้าน เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อขอให้เร่งรัดคดี เนื่องจากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม
โดยทันทีที่ผู้เสียหายได้พบกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทั้งหมดต่างเข้าไปก้มกราบเพื่อขอให้ช่วยติดตามคดี โดยบอกว่าผู้เสียหายบางรายถึงกับฆ่าตัวตาย เนื่องจากเป็นหนี้สินและโดนดำเนินคดี โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รับปากว่า จะดำเนินการติดตามเร่งรัดคดีให้ พร้อมสั่งการให้ทีมพนักงานสอบสวนตรวจสอบคดีของผู้เสียหายในแต่ละท้องที่ทันที
ภายหลัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยอมรับว่า ปัจจุบันนี้มีการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว รวมถึงลวงจำนำรถ มีการระบาดหนักมากในช่วงที่ผ่านมา แม้ตำรวจจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว แต่ปัญหาคือ เมื่อยึดทรัพย์ได้ แต่การนำทรัพย์ไปขายทอดตลาดแล้วเฉลี่ยเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายต้องใช้เวลานานมาก
รองผบ.ตร.กล่าวว่า กรณีหลอกลวงเช่นนี้อยากฝากเตือนให้ประชาชนก่อนตัดสินใจ ขอให้ปรึกษาหารือกับทางเจ้าหน้าที่รัฐก่อน เช่น กรมการขนส่งทางบก หรือสถานีตำรวจในพื้นที่ ไม่เช่นนั้นอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ อยากฝากเตือนให้ประชาชนมีสติพิจารณาในรอบครอบ จากนี้ตนจะเร่งรัดคดีไล่เรียงตั้งแต่สถานีตำรวจท้องที่ว่า ทำไมคดีไม่มีความคืบหน้าทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เพื่อต้องการยกระดับการบริการประชาชน หากใครที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือคดีมีความล่าช้าขอให้เข้ามาพบตนที่สโมสรตำรวจได้ทันที
