ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรี 7 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจสอบสถานบริการบ้านใหญ่สุ่ม ตรวจสารเสพติดนักท่องเที่ยวจำนวนกว่า 167 ราย
เมื่อเวลา 03.45 น.วันนี้ 3 กรกฎาคม 2566 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวานิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.7 พ.ต.ท.ศันสนะ พิริยะจิตตะ รอง ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.7 พ.ต.ท.วงศกร หลงกุล สว.กก.ปพ.บก.สส.ภ.7 พ.ต.ท.พุฒิเศรษฐ์ ไหลประเสริฐ สว.กก.ปพ.บก.สส.ภ.7 พ.ต.ต.ชูสิทธิ มนตรีมุข สว.กก.ปพ.บก.สส.ภ.7 พร้อมกำลังชุดเจ้าหน้าที่ ตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.7 และ ชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรี 7 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหินบูรณาการกำลังเข้าทำการตรวจสอบสถานบริการบ้านใหญ่ เลขที่ 190/13 ซอยหัวหิน 80 ถนนเพชรเกษม ต.หัวหิน อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ และได้ทำการตรวจสารเสพติดจากปัสสาวะ นักท่องเที่ยวจำนวน 167 คน โดยคัดแยกเป็น ชายจำนวน 94 คน หญิงจำนวน 73 คน และได้ทำการจับกุมตัว นายโชคดี อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 100/436 ซ.หมู่บ้านบ่อฝ้าย ต.หัวหิน อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์
ในความผิดฐาน เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต , จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต , จำหน่ายสุราในเวลาห้าม และฝ่าฝืนขายสินค้าบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ ให้รวมถึงการให้เช่า ให้เช่าซื้อ หรือจัดให้ไม่ว่าด้วยประการใดๆ โดยให้เรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น ตลอดจนการเสนอหรือชักชวนเพื่อการดังกล่าว นายคฑาวุฒิ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/5 ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ของ ร้านบ้านใหญ่ ในความผิดฐาน “มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยปราศจากความจำเป็นเร่งด่วน” พร้อมของกลางอาวุธปืน ไทยประดิษฐ์ ขนาด.380 จำนวน 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุน จำนวน 1 ชิ้น กระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 3 นัด ซองพก 1 ชิ้น และ นายสุรศักดิ์ เสาร์ทอง อายุ 36 ปี 113 หมู่ 2 ต.หนองแวง อ.โคกสูง จว.สระแก้ว โดยกล่าวหาว่า “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท ที่ 1(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย“
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลกำหนดยุทธศาสตร์ ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่มีผลกระทบ และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จึงได้สั่งการให้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด.ภ.7 เร่งรัดติดตามทำการสืบสวนกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นทั้ง 8 จังหวัด 104 สถานี โดยได้กำชับให้ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบเน้นตรวจตราสถานบันเทิง ห้ามเปิดบริการเกินเวลาตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดให้กับผู้ที่อายุไม่ถึง 20 ปี และต้องมีใบอนุญาตประกอบการสถานบันเทิงอีกด้วย เพื่อไม่ให้กลุ่มเยาวชนเข้าไปใช้บริการในสถานบันเทิงในเขตพื้นที่รับผิดชอบอาจจะก่อปัญหาอาชญากรรม ลักลอบค้ายาเสพติด และป้องกันนักดื่มหน้าใหม่อีกด้วย
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญได้หลายรายพบว่า มีการจำหน่ายยาเสพติด ทั้งยาบ้า ยาอี และไอซ์ ในกลุ่มนักเที่ยวยามราตรี จึงต้องเข้มงวดในเรื่องของการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดกลุ่มนักเที่ยวมากขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดมาแพร่กระจายหรือจำหน่ายในเขตพื้นที่รับผิดชอบผลการตรวจสอบไม่พบผู้อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ และสุ่มตรวจสารเสพติดนักเที่ยวไม่พบผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และไม่พบสถานบันเทิงทำผิดกฎหมาย จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป