ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมเสริมทักษะ พ.ร.บ.ฟอกเงิน แก่ข้าราชการตำรวจ รุ่นที่ 2 เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่มีมาตรฐานเดียวกัน

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธานเปิดการฝึกอบรมเสริมทักษะ พ.ร.บ.ฟอกเงิน แก่ข้าราชการตำรวจ รุ่นที่ 2 เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่มีมาตรฐานเดียวกัน พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการเปิดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของข้าราชการตำรวจ เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พุทธศักราช 2542 ประจำปีพุทธศักราช 2566 รุ่นที่ 2 ณ ห้องประชุม โรงแรมคลาสสิก คามีโอ้ จังหวัดระยอง โดยมี นาย กมลศิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน , รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 , รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 , รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 , รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 , รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. , รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และผู้บังคับการกฎหมายและคดี ตำรวจภุธรภาค 5 ร่วมพิธี

โดยการฝึกอบรมครั้งนี้ มีข้าราชการตำรวจผู้เข้ารับการอบรมจากตำรวจภูธรภาค 3 , 4 , 5 ,6 , กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการ สอท. และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จำนวน 116 คน ทั้งนี้ โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของข้าราชการตำรวจ เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พุทธศักราช 2542 ประจำปีพุทธศักราช 2566 เป็นโครงการที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดขึ้นครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 27-30 มิถุนายน 2566 เพื่อให้ความรู้แก่ข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พุทธศักราช 2542 อาทิ การดำเนินคดีฟอกเงินและชั้นตอนในกระบวนการของศาล แนวปฏิบัติที่ถูกต้องในทุกมิติ การประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เทคนิคการสืบสวนสอบสวนเพื่อนำไปสู่คดีอาญาฐานฟอกเงิน เป็นต้น เพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้านการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินให้มีประสิทธิภาพและเห็นผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ กล่าวว่า สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ตระหนักถึงความสําคัญของการดําเนินคดีมูลฐาน การสืบทรัพย์ การวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดําเนินคดีอาญาฟอกเงิน ซึ่งนําไปสู่การดําเนินการจับกุม ขยายผล และการยึดอายัดทรัพย์ทางแพ่ง นําทรัพย์ที่ได้จากการกระทําความผิดมาช่วยบรรเทาความความเสียหายแก่ประชาชน จึงได้าเนินการจัดโครงการนี้ ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อํานาจหน้าที่ที่รับผิดชอบ พร้อมเสริมสร้างทักษะในการปฏิบัติงานด้านการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และการดําเนินคดีกับผู้กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน ด้วยความโปร่งใส เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน