รวบหนุ่มใหญ่ ตระเวนฉกไอแพด ตามร้านกาแฟหรูทั่วกรุง

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผกก.สน.บางรัก พร้อม พ.ต.ท.เกียรติภูมิ ทินาโชติ รอง ผกก.สส.สน.บางรัก และพ.ต.ต.สมถวิล ไสลจักร์ สว.สส.สน.บางรัก นำกำลังจับกุมตัว นายขรรค์ชัย ติยวรกุล อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาตระเวนลักทรัพย์ตามร้านกาแฟหรู ย่านเศรษฐกิจ ได้ที่บริเวณชั้น 3 ห้างดัง ย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ ขณะเตรียมก่อเหตุซ้ำ

สืบเนื่องจาก ตำรวจได้รับการร้องเรียนว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้ทำทีเข้าไปเป็นลูกค้าที่ร้านกาแฟชื่อดัง สาขาต่างๆ ในย่านเศรษฐกิจ โดยจะไปหยิบแก้วที่มีโลโก้ของร้านที่ลูกค้าใช้แล้ว แล้วถือเดินเข้าไปนั่งในร้าน จากนั้นจะคอยสังเกตเหยื่อ ที่เอาอุปกรณ์การทำงาน เช่น โน้ตบุ๊ก ไอแพด แท็ปเล็ท มือถือ มาด้วย ลูกค้ารายใด ไม่ระวังทรัพย์สินของตนเอง เช่น วางทรัพย์สินไว้ที่โต๊ะ แล้วเดินไปสั่งกาแฟ หรือเดินไปเข้าห้องน้ำนั้นคนร้ายจะใช้โอกาสนี้ หยิบฉวยเอาทรัพย์สิน และหลบหนีออกจากร้านไปทันที ก่อนนำไปขาย

โดยคดีนี้ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุ ลักทรัพย์ ไอแพด (Pro 11) ภายในร้านกาแฟชื่อดัง สาขาสุรวงศ์ จากนั้นตำรวจ ฝ่ายสืบสวน ได้ลงพื้นที่ติดตามวงจรปิด ได้หลบหนีอยู่ในพื้นที่ย่านสุขุมวิท จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ จนนำไปสู่การจับกุมได้ดังกล่าว เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าเจ้าตัวมีหมายจับคดีลักษณะดังกล่าว ติดตัวอยู่ถึง 5 หมายจับ จึงคุมตัวสอบสวน สน.บางรัก

จากการสอบสวน นายขรรค์ชัย ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมานานแล้ว หลายพื้นที่ และยังคงกระทำความผิดในลักษณะเช่นเดิมอยู่ โดยล่าสุดรับว่าเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2566 ได้ก่อเหตุลักษณะดังกล่าวที่ร้านอาหารภายในห้างชื่อดัง ริมถนนรัชดา พื้นที่ สน.ห้วยขวาง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.วัชรวีร์ ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยประชาชน ให้ช่วยกันดูแลระมัดระวังทรัพย์สินของตนเอง อย่าเผลอวางทรัพย์สินทิ้งไว้ เพราะอาจได้รับความเสียหาย และตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในลักษณะดังกล่าว ส่วนผู้เสียหายรายใดที่ตกเป็นเหยื่อ หรือสงสัยว่าตนเองเป็นเหยื่อของ นายขรรค์ชัย สามารถประสานสอบถามข้อมูลมายัง ฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ได้ตลอดเวลา เพื่อจะได้ขออายัดตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พร้อมทั้งขอฝากเตือนร้านรับซื้อของมือสอง ร้านรับจำนำ ไม่ว่าจะเปิดหน้าร้าน หรือทางออนไลน์ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับซื้อ เพราะการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมาย ในข้อหา “รับของโจร” หากเป็นคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ สน.บางรัก จะดำเนินการทุกราย