กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป, พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ รอง ผกก.5 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สว.กก.5บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.5 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม
- นายสานิตย์ฯ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 206/2566
ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2566 - นางสาวอัมพรฯ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 207/2566
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พฤติการณ์ เมื่อช่วงต้นปี พ.ศ. 2565 นายสานิตย์ฯ และ น.ส.อัมพรฯ มีพฤติกรรมสร้างเพจเฟซบุ๊ก ชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมเล่นแชร์ โดยหลอกว่าจะได้ผลตอบแทนสูง โดยมีการโพสต์ภาพเงินสดจำนวนมาก และการใช้ชีวิตที่หรูหราสร้างความน่าเชื่อถือ จนมีผู้หลงเชื่อโอนเงินให้กับผู้ต้องหานี้เป็นจำนวนมาก ต่อมาผู้เสียหายต่างไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ได้ จึงรวมตัวกันไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.นครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท
จากนั้นเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหายได้รวมตัวกันมาร้องกองปราบ ขอให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย จนกระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่พื้นที่ จ.ภูเก็ต จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.นครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหา เบื้องต้นปฏิเสธในชั้นจับกุม โดยนายสานิตย์ฯ ระบุอ้างว่าตนเองไม่เกี่ยวข้องเพียงแต่ให้แฟนสาวยืมบัญชีไปใช้เท่านั้น ขณะที่นางสาวอัมพรฯ อ้างว่าตนไม่มีเจตนาจะหลอกลวงแต่อย่างใด ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย ไม่ควรหลงเชื่อคนร้ายที่ชักชวนหลอกลงทุน โดยอ้างว่าลงทุนน้อยและให้ผลตอบแทนสูง