พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้กล่าวถึงความคืบหน้า กรณี ผู้กำกับพันธุ์ดุ สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ใต้บังคับบัญชาของ สภ. ดังกล่าวในหลายกรณี เช่น มีการอายัดบัญชีกว่า 900 บัญชี จัดชุดพนักงานสอบสวนชุดเฉพาะ 2-3 คน ให้มาทำเรื่องเกี่ยวกับการอายัดบัญชีของกลุ่มจีนเทาอย่างเดียว
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.66) ตนได้มีคำสั่งโยกย้าย ผู้กำกับดังกล่าวให้ไปช่วยราชการที่อื่นแทน เพื่อแก้ไขปัญหาและเปิดทางให้ตำรวจได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงได้อย่างเต็มที่ โดยเรื่องดังกล่าวได้ประสานทาง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 1 โดยทาง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ระบุว่า ตนเคยออกใบแดงให้ผู้กำกับคนดังกล่าวไปแล้ว ว่าให้หยุดพฤติกรรมแบบนี้ แต่เมื่อไม่หยุด ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยังระบุอีกว่า ปัญหาลักษณะนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะ ตำรวจภูธรภาค 1 แต่ยังเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆด้วย ในกรณีนี้ผู้ใต้บังคับบัญชารู้สึกทนไม่ไหว เพราะพบพฤติกรรมหลายอย่างไม่เหมาะสม เช่น การแต่งตั้งพนักงานสอบสวน 2-3 นายขึ้นมาทำการอายัดบัญชีของกลุ่มสีเทา ก่อนเรียกรับผลประโยชน์แลกกับการเพิกถอนอายัด และทำคดีนี้คดีเดียวโดยไม่รับผิดชอบคดีอื่นเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่ควรเกิดขึ้น ซึ่งการอายัดบัญชีสามารถกระทำได้ แต่ไม่ใช่การกลั่นแกล้งเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ ดังนั้นจึงต้องดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อผู้ใต้บังคับบัญชา และตำรวจนายอื่นๆ เช่นเดียวกับเรื่องเงิน 176 ล้านบาทในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งได้มีการอายัดไปแล้วก่อนหน้านี้ และมีการเพิกถอนในเวลาต่อมาในลักษณะต่อรองผลประโยชน์ ก็ต้องดำเนินการเป็นเคสต่อไป