วันที่ 6 มิ.ย.66 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ,พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สระบุรี นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ร่วมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการ ร่วมกันสืบสวนจับกุมขยายผลยาเสพติด ทราบว่า น.ส.เจนจิรา หรือเค้กฯ ทำหน้าที่จัดหาทีมลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อนำส่งมอบให้กับนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง และภาคใต้หลายครั้ง
โดย เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 เวลา 13.45 น. ต่อเนื่องเวลา 14.30 น.และต่อเนื่อง 17.00 น. สืบทราบว่ามีผู้ต้องหาลักลอบลำเลียงยาเสพติด ใช้รถโตโยต้า ฟอจูนเนอร์ สีดำ เป็นรถขนยาเสพติด และรถอีซูซุ MU-X สีน้ำตาล เป็นรถสำรวจเส้นทาง ขับมาตามถนนโชคชัย มุ่งหน้าแยกลำพระเพลิง ต.งิ้ว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา มุ่งหน้า เข้าเขต สระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สะกดรอยตามมาตลอด แต่ด้วยกลุ่มผู้ต้องหาเห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะดักตรวจในถนนสายหลัก ถนนมิตรภาพ เป็นประจำ จึงเปลี่ยนมาใช้เส้นทางถนนสายรอง ถนนสายแสลงพัน แก่งคอย สระบุรี
จนกระทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ที่บริเวณสวนผัก ริมแม่น้ำป่าสัก หมู่ 1 ต.ท่าตูม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ต่อเนื่องบริเวณภายในวัดลาดเขาปูน หมู่ 8 ต.บ้านแก้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี และต่อเนื่องไปที่ห้องพัก รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ต.สองคอน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ของกลางมี ยาเสพติดให้โทษ ยาบ้า จำนวน 17 กระสอบ รวมจำนวน 4,000 มัด ประมาณ 8,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถฟอจูนเนอร์ , รถยนต์โตโยต้าฟอจูนเนอร์ สีดำ ใช้ลำเลียงยาเสพติด , รถยนต์อีซูซุ MU-X สีน้ำตาล ใช้สำหรับสำรวจเส้นทาง
ได้ผู้ต้องหา 5 คน คือ นายธรีพงษ์ หรือเล็ก ภูผิวเหลือง อายุ 32 อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 2 ปี ขับรถลำเลียงยาเสพติด นายพร้อมพงษ์ หรือพงษ์ สีลากัน อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 177 หมู่ 10 โดยสารมากับรถลำเลียงยาเสพติด นายศรัณย์ หรือกล้อง เกตุแก้ว อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 111 หมู่ 3 ขับรถนำสำรวจเส้นทาง ทั้ง 3 คน อยู่ตำบลเดียวกัน ต.หนองกุงทับม้า อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี MRS.KESONE MISY อายุ 31 ปี โดยสารมากับรถนำสำรวจเส้นทางลำเลียงยา และนายธวัชชัย หรือวัฒ อินทรสงเคราะห์ อายุ 22 ปี โดยสารมากับรถนำสำรวจเส้นทาง
โดยกล่าวหาว่าร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ยาเสพติดดังกล่าวหากแพร่กระจายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึง 40 ล้านบาท และจะได้ขยายผลสืบสวนจับกุมอย่างต่อเนื่องต่อไป
