ตร.บุกค้นบ้านหรู จับผัว-เมีย แก๊งจีนคริปโต ตุ๋นข้ามชาติ เสียหายนับหมื่นล้าน

ตำรวจไซเบอร์ บุกค้นบ้านหรู มูลค่า 60 ล้าน ย่านประเวศ แก๊งจีนคริปโต จับผัว-เมีย หลอกตุ๋นลงทุนข้ามชาติ ความเสียหายนับหมื่นล้าน เตรียมแถลงข่าววันนี้

วันที่ 31 พ.ค.2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สนธิกำลัง บช.สอท. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เปิดปฏิบัติการ Trust No One ล่าข้ามโลก ปิดล้อมตรวจค้น 19 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

โดยจุดที่น่าสนใจคือ การตรวจค้นบ้านหรูย่านประเวศ ซึ่งจุดนี้มีด้วยกัน 5 เป้าหมาย มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่กว่า 150 ตารางวา แต่ละหลังมูลค่า 35-60 ล้านบาท ก่อนจับกุม นายเซาเซียน ซู อายุ 31 ปี และ นางคี ยิ ยี อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาวจีนตามหมายจับศาลอาญาที่ 1665-1666/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค.2566 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน

จึงได้ทำการจับกุมตัวพร้อมตรวจยึดเงินสดกว่า 1.5 ล้านบาท โฉนดที่ดินบ้านจัดสรรมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท, หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดหรูย่านสุขุมวิท 4 ห้อง มูลค่า 128 ล้านบาท, ตุ๊กตาแบร์บริค 14 ตัว, โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 เครื่อง, ไอแพค, คอมพิวเตอร์แมคบุ๊ก, กระเป๋าแบรนด์เนม อาทิ แอร์เมส, ชาแนล เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบจุดอื่น ๆ ในหมู่บ้านเดียวกันอีกกว่า 16 จุด หลังพบข้อมูลความเชื่อมโยงของกลุ่มดังกล่าว เบื้องต้นตรวจยึดรถยนต์หรู เอกสารหลักฐาน โฉนดที่ดินและเงินสดจำนวนหนึ่ง รวมทั้งตรวจสอบบ้านหรู ย่านกรุงเทพกรีฑา ตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจาก บช.สอท. ได้รับการร้องเรียนผ่านผู้เสียหายจากระบบแจ้งความออนไลน์ว่า ถูกคนร้ายใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิท ผู้เสียหายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ก่อนจะชวนลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมสําหรับเทรดเงินสกุลดิจิตอลหรือสินทรัพย์ต่าง ๆ ในลักษณะหลอกลงทุนไฮบริดสแกรม ซึ่งมีผู้เสียหายในพื้นที่ สน.ศาลาแดง, สน.โชคชัย และ สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท

นอกจากนี้ ได้ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ, ยูเอสซีเคร็ท เซอร์วิสและหน่วยงานกระทรวง ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ ว่ามีผู้เสียหายจากประเทศสหรัฐอเมริกา 2 คดี และอังกฤษ 1 คดี ที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายดังกล่าว รวมมูลค่ากว่าพันล้าน และเชื่อว่ามีผู้เสียหายจำนวนมาก และมูลค่าความเสียหายถึงหมื่นล้านบาท