วันที่ 25พ.ค.66 ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ พ.ต.อ.สมิต นันท์นฤมิตร ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ พร้อมด้วยร.ต.ท.ขวัญชัย คำทา รอง สว.สอบสวน สภ.เมือง จ.ชัยภูมิ และตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ได้นำตัว นายธนายุทธ อายุ 31 ปี ชาว ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ มาสอบปากคำ หลังจากที่นำหมายศาล จ.ชัยภูมิ ลงวันที่ 25 พ.ค.66 เข้าจับกุมนายธนายุทธ พลูสงค์ อายุ 31 ปี หมู่ 7 ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
ผู้ต้องสงสัยในคดีพยายามลักทรัพย์ ในเวลากลาคืน เป็นตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งอยู่หน้าร้านค้าต่าง ทั่วทั้งจังหวัดชัยภูมิ ภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ได้ตระเวนไปขโมยงัดตู้เติมเงินตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งหมด 36 เครื่อง แต่ได้ไปเพียง 27 เครื่องได้เงินไปในแต่ละครั้งประมาณ 3-5 พันบาท รวมเงินที่ได้ไปกว่า 100,000 บาท
ซึ่งมีกล้องวงจรปิดบริเวณร้านค้าติดตั้งตู้เติมเงินหลายแห่งจับภาพนายธนายุทธ ผู้ก่อเหตุในขณะเข้าก่อเหตุได้อย่างชัดเจน โดยล่าสุดนายธนายุทธ ได้ก่อเหตุเข้าไปงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ ที่ห้องแถวขายของชำแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ เมื่อวันที่ 5 พ.ค.66 เวลากลางคืน โดยใช้กุญแจผีเปิดเอาเงินในตู้ไปจำนวนหนึ่ง เจ้าของร้านของชำ จึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ ต่อมา พ.ต.อ.สมิต นันท์นฤมิตร ผกก. สภ.เมืองชัยภูมิ ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ได้เร่งติดตามจับกุมหัวขโมยรายนี้ตามหลักฐานจากกล้วงวงจรปิดให้ได้โดยเร็ว
ก่อนที่ จนท.จึงออกติดตามเพื่อสืบทราบจากภาพวงจรปิดหลายแห่ง จึงนำสู่การจับกุม หลังขอหมายศาล จ.ชัยภูมิ ติดตามและเข้าจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่บ้านห้วยหวาย ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ในตอนเช้าที่ผ่านมา(25พ.ค.66) พร้อมรายละเอียดตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ได้ก่อเหตุตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วทั้ง จ.ชัยภูมิ 36 ตู้ ก่อเหตุงัดตู้สำเร็จ 27 ตู้ นำตัวมาสอบปากคำที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ
ด้านนายธนายุทธ อายุ 31 ปี หัวขโมยตัวแสบรายนี้เผยว่า ตนเองพึ่งโทษในคดีบุกรุกบ้านผู้อื่นในยามวิกาล หลังจากพ้นโทษออกมาจากเรือนจำมาประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา และได้ความรู้วิธีการงัดตู้เติมเงินนี้มาจากในเรือนจำ หลังพ้นโทษออกมา ไม่มีงานทำ แถมยังต้องมีภาระเลี้ยงลูก และภรรยา ไม่มีงานทำไม่มีเงิน จึงตระเวนหาตู้เติมเงิน เพื่องัดเอาเงินในตู้มาใช้จ่าย โดยจะใช้เพียงแค่ กรรไกร เพียงอย่างเดียวก็สามารถเปิดตู้และนำเงินออกมาได้แล้ว โดยใช่เวลาไม่ถึงนาที โดยจะออกตระเวนหาตู้เติมเงินในช่วงเวลาตึกๆ เวลาที่ตามร้านค้าจะนอนแล้ว หลังจากนั้นเมื่อเจอตู้ ก็จะทำการดึงปลั้กออก เพื่อให้เครื่องไม่ส่งเสียงร้อง และหลังจากนั้นก็ทำการใช้กรรไกร งัดตรงกุญแจตู้ โดยใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็ทำการไข และเปิดตู้ออกมาได้ โดยเจ้าตัวบอกได้เงินจากทั้งหมดที่งัดมา ได้เงินประมาณ 3 หมื่นบาท แต่ทางตำรวจ ยังไม่ปลักใจเชื่อ เพราะช่วงเวลาเดียวกันนี้ทางจังหวัดชัยภูมิในรอบ 1-2 อาทิตย์ มีเฉพาะตู้บุญเติมนี้ถูกงัดไปแล้วกว่า36 เครื่องก่อเหตุสำเร็จ 27 เครื่อง น่าจะได้เงินไปมากกว่า 100,000 บาท
เบื้องต้นนายธนายุทธ พลูสงค์ อายุ 31 ปี ผู้ก่อเหตุได้ ยอมรับสารภาพเป็นคนลงมือก่อเหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือจริง ก่อนที่พนักงานสอบสวนถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์ผู้อื่นในยามวิกาลส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.