สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาจีน ‘แก๊งหลอกลงทุนแชร์ลูกโซ่-หนีกบดานในไทย’

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม./หน.ชุด ศปอส.ตร.ชุดที่ 1, พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.ศท.ตม.ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.สรธรรศจ์ เอี่ยมละออ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้ 

1. สตม. ร่วมกับ ศปอส.ตร.รวบมือขวาแก๊งหลอกลงทุนแชร์ลูกโซ่จีน สร้างความเสียหายกว่า 150,000 ล้านบาท 

สตม. ได้รับประสานข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กรณีผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีนรายสำคัญ คือ MR.ZHAO หรือ นายจ้าว  (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ซึ่งก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี ลักษณะฉ้อโกงประชาชน ฯ ร่วมกับพวกเปิดบริษัทเกี่ยวกับการลงทุน และได้ชักชวนประชาชนให้เข้าร่วมการลงทุนซึ่งมีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ โดยแจ้งว่าหากนำเงินมาลงทุนจะได้รับผลประโยชน์ 7-10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อลงทุนกว่า 150,000 ล้านบาท โดยเบื้องต้นยังมีทรัพย์สินที่จะต้องติดตามคืนกว่าอีก 75,000 ล้านบาท

บก.สส.สตม. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สิทธิมณ สร้อยภู่ระย้า สว.กก.4 บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร.ชุดที่ 1 พร้อมพวก สืบสวนติดตามจับกุม MR.ZHAO เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า MR.ZHAO ได้หลบซ่อนอยู่ในคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการเฝ้าดูและติดตาม จนพบ MR.ZHAO ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับสาธารณะรัฐประชาชนจีนและถูกเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราวฯ ออกมาจากห้อง จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอทำการตรวจค้น โดยก่อนการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์จนเป็นที่พอใจแล้ว ซึ่ง MR.ZHAO สมัครใจพาตรวจค้นห้อง ผลการตรวจค้นพบ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ จำนวนหลายรายการ จึงได้นำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

2. บก.สส.สตม. รวบ 3 ผู้ต้องหาแดนมังกรหนีหมายจับ กบดานไทย  

ตามที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พิจารณาดำเนินการกรณี    สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย มีหนังสือมายังกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งข้อมูลผู้ต้องหาสัญชาติจีนที่มีหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ดังนี้

1. นางสาวเยี่ยนฟาง (นามสมมติ) อายุ 35 ปี เป็นผู้ต้องหาในการหลบเลี่ยงภาษี 25 ล้านหยวน (ประมาณ 125 ล้านบาท)

2. นายชิงอี (นามสมมติ) อายุ 44 ปี เป็นผู้ต้องหาในการลักลอบนำเข้าขยะ 15 ตัน

3. นายหยวน (นามสมมติ) อายุ 45 ปี เป็นผู้ต้องหาในการลักลอบนำเข้าขยะพลาสติก 474 ตัน

จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยถูกต้องตามกฎหมาย และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุด ผบก.สส.สตม. จึงได้อนุมัติให้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ มีพฤติการณ์ที่สมควรเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และได้สั่งการให้ กก.1 บก.สส.สตม. สืบสวนติดตามผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เพื่อนำตัวมาดำเนินกระบวนการในการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร กก.1 บก.สส.สตม. จึงได้ระดมกำลังในการสืบสวนติดตามผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จนกระทั่งต่อมาได้พบ นางสาวเยี่ยนฟาง ที่คอนโด ย่านพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ, พบนายชิงอี ในบริษัทแห่งหนึ่งใน ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และพบนายหยวน ที่ ต.หนองข้างคอก อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี จึงได้แจ้งหนังสือแจ้งการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ให้ได้รับทราบ และนำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อรอการส่งกลับไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป