พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุเส้นทางการเงินในบัญชี ‘แอม ไซยาไนด์’ 78 ล้านบาท โอนเข้าออกไปยังเว็บไซต์พนันออนไลน์ ได้เสียวันละล้านบาท เตรียมเข้าสอบแอมอีกครั้งพรุ่งนี้บ่าย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 พ.ค.66 ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีของนางสาวสรารัตน์หรือ แอม รังสิวุฒาภรณ์ ผู้ต้องใช้สารโพแทสเซียมไซยาไนด์ วางยาเหยื่อมีผู้เสียชีวิต รวม 14 ราย ว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้เชิญตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีของนางสาวสารรัตน์ หรือ แอม มาแจ้งข้อกล่าวหาทำลายหลักฐานเพิ่มเติม และได้สอบปากคำพยานในคดีเพิ่มอีก 7 คน แต่พบว่ายังให้การไม่ตรงกับที่นางสาวแอมกล่าวอ้าง ซึ่งตำรวจก็จะนำหลักฐานและคำให้การมารวบรวมอีกครั้ง
โดยคดีนี้ยืนยันว่าจะสามารถรวมรวมหลักฐานส่งให้อัยการพิจารณาสำนวนได้ภายในการฝากขังผัดที่ 3 ของผู้ต้องหา ซึ่งคดีนี้เป็นการบูรณาการของทั้งกองปราบปราม และตำรวจภูธรภาค 7 ทำให้คดีมีหลักฐานที่ละเอียดและรัดกุม
สำหรับเส้นทางการเงินของนางสาวแอม 78 ล้านบาท ได้รับข้อมูลมาจากธนาคารทั้ง 180 บัญชีแล้ว พบว่าเป็นเงินที่เข้าออกไปที่เว็บไซต์พนันออนไลน์ และเงินเข้าไปที่บัญชีม้าทั้งหมด โดยพบว่านางสาวแอม ได้เล่นพนันออนไลน์เป็นกลุ่มได้เสียมากสุดวันละ 1 ล้านบาท จึงเชื่อว่า มีความต้องการใช้เงินเนื่องจากติดหนี้พนันออนไลน์ และมีเงินของผู้เสียชีวิตบางคนถูกโอนเข้ามาที่บัญชีของนางสาวแอม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุว่า เร็วๆนี้จะทราบถึงแหล่งที่มาของไซยาไนด์ที่นางสาวแอมนำมาใช้ก่อเหตุ หลังจากตรวจสอบโรงงานกว่า 700 โรงงาน เหลือเพียง 10 กว่าโรงงานแล้ว ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ส่งมาจากนายแด้ อดีตสามี และไซยาไนด์ไม่สามารถนำไปผสมกับยาเสพติดได้เนื่องจากมีอันตรายถึงชีวิต
นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับคนใกล้ชิดของนางสาวแอมเพิ่มเติม ส่วนการตรวจพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุกว่า 400 ชิ้น ได้ร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และรองศาตราจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งผลการตรวจสอดคล้องกัน โดยทั้งหมดจะต้องรวมในสำนวนทั้งหมด
โดยวันพรุ่งนี้จะเข้าไปสอบปากคำนางสาวแอม เพิ่มเติมที่ทัณฑสถานหญิงกลางอีกครั้งในประเด็นที่เคยรับสารภาพในข้อเท็จจริงบางส่วน เวลา 15.00 น. โดยยังไม่ทราบว่าจะร้องขอให้ทนายมารับฟังการสอบปากคำด้วยหรือไม่