“แอม” อ้างมอบ ‘ไซยาไนด์’ ให้ “ก้อย” ลองใช้ผสมยาเสพติด

จากกรณีเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (15 พ.ย.66) นางสาวรัตน์หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์หรือแอม ผู้ต้องหาคดีใช้สารพิษโพแทสเซียมไซยาไนด์ วางยาเหยื่อ จนมีผู้เสียชีวิต รวม 14 ราย และถูกขังอยู่ภายในเรือนจำ ได้ยื่นหนังสือคำร้องต่อกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอพบ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. โดยอ้างว่าจะขอรับสารภาพกับพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 19.10 น.วันที่ 15 พ.ย. ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง (คลองเปรม) ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นําเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.ศฝร.บช.น.) ในฐานะ หัวหน้าชุดพร้อมพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีเดินทางเข้าไปสอบปากคำกว่า นางสรารัตน์หรือแอม ผู้ต้องหา โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง และเป็นสอบปากคำครั้งที่ 3 พร้อมกับเชิญตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีของนางสาวแอม มาร่วมสอบสวนที่ทัณฑสถานหญิงกลางด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้นางสาวแอม ได้ยื่นหนังสือผ่านกรมราชทัณฑ์ว่าต้องการที่จะพบตนเองเพื่อรับสารภาพเพิ่มเติมในหลายประเด็น แต่จากการสอบปากคำยังไม่มีการรับสารภาพว่าเป็นผู้ฆ่าทั้ง 14 ศพ แต่รับสารภาพเพิ่มเติมว่าได้นำเสนอยาไซยาไนด์ให้กับนางสาวก้อย ในลักษณะผง บรรจุในซิบล็อค เพื่อให้นำไปทดลองผสมใช้กับยาเสพติด โดยอ้างว่าให้ใช้ในปริมาณเล็กน้อย และยกตัวอย่างว่านายแด้ได้นำไซยาไนด์ใช้กับสารเสพติดเช่นเดียวกันเพื่อใช้เสพ และอ้างว่าไซยาไนด์ดังกล่าวก็นำมาจากนายแด้ด้วย

ทั้งนี้เป็นเพียงการยอมรับว่าให้ไปทดลองใช้กับยาเสพติด แต่ไม่ได้รับสารภาพว่าให้กินหรือให้ดื่ม ซึ่งตนเองก็ไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาทั้งหมด แต่การรับสารภาพว่านำไซยาไนด์ไปมอบให้ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก โดยจะนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลในสำนวนว่าตรงกันหรือไม่ และได้บอกให้ไปตั้งสติและเรียบเรียงข้อมูลก่อนที่วันมะรืนนี้ (17พ.ค.) จะเข้าไปสอบปากคำอีกครั้ง

ส่วนเรื่องทนายความนางสาวแอมให้การว่า ได้ทิ้งไปแล้ว ซึ่งก็ไม่กระทบต่อรูปคดี พนักงานสอบสวนมีหน้าที่สอบ และนางสาวแอมมีหน้าที่ให้การ ซึ่งคำให้การของนางสาวแอมในวันนี้ ไม่สอดคล้องกับคำให้การของผู้รอดชีวิต และยังตอบไม่ได้ในหลายประเด็นโดยเฉพาะประเด็นที่ผ่าพิสูจน์ศพทั้ง 14 ศพออกมาและพบไซยาไนด์ทุกศพ ซึ่งการให้การเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาว่าจะให้การอย่างไรก็ได้

ขณะที่ในวันพรุ่งนี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับคนใกล้ชิด เนื่องจากคำให้การของแอมมีการชี้ไปถึงบุคคลใกล้ชิด ขณะที่ในวันนี้รองผู้กำกับอ๊อฟ อดีตสามีของแอม ได้เข้าร่วมสอบปากคำและเจอกับแอมด้วย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ปล่อยให้ทั้งสองคนพูดคุยกัน ซึ่งอดีตสามียังไม่ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝากไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และให้คำปรึกษาทั้งหมดว่าอุบายต่างๆไม่มีประโยชน์เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานตามพยานหลักฐาน