ธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนุ่มปลอมธนบัตรส่งขายทั่วประเทศ ทำมาแล้วกว่า 30 ครั้ง ความเสียหายกว่า 3 แสนบาท
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.พัฒนา ฉายาวัฒน์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ป.ปฏิบัติราชการ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วีระชน หล่าสกุล, พ.ต.ท.กริช วรทัต, พ.ต.ท.วิวัฒนชัย คลื่นแก้ว รอง ผกก.5 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัต สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมด้วย ด.ต.คัมคุณ บุญครอบ, ด.ต.อติกันต์ เปรมสุข, ด.ต.ศุภชัย เอกจีน, ด.ต.ชัยวัฒน์ เขียวอิ่ม ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายกฤษฎาฯ อายุ 25 ปี โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ปลอมเงินตรา” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี วันที่จับกุม 10 พฤษภาคม 2566 เวลา 08.00 น.
พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ มีการโพสต์ประกาศ โฆษณาเชิญชวนเกี่ยวกับจำหน่ายธนบัตรชนิดใบละ 1,000 บาท ปลอม จึงประสานความร่วมมือมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.5 บก.ปอศ. ให้ดำเนินการสืบสวนตรวจสอบ เนื่องจากหากมีผู้นำธนบัตรปลอมไปชำระสินค้าและบริการ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ดังกล่าว คือ นายกฤษฎาฯ มีการจำหน่ายธนบัตรปลอมจริง โดยจำหน่ายธนบัตรปลอมมูลค่า 1,000 บาท ในราคา 100 บาท พร้อมมีการจัดโปรโมชัน ซื้อ 10 ใบ แถม 1 ใบ โดยจัดส่งทางขนส่งเอกชนมีทั้งแบบชำระเงินปลายทาง และโอนเงินก่อนรับสินค้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ จนกระทั่งวันนี้ (10 พ.ค.2566) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นศาลจังหวัดสิงห์บุรี เข้าทำการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางและพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ผลการตรวจค้นพบนายกฤษฎาฯ อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมตรวจยึด ธนบัตรปลอมใบละ 1,000 บาท จำนวน 23 ฉบับ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 5 เล่ม
ในชั้นจับกุม นายกฤษฎาฯ รับว่าซื้อธนบัตรปลอมมาจากช่องทางออนไลน์มาในราคาใบละ 30 บาท แล้วนำมาขายต่ออีกทอดหนึ่งในราคาใบละ 100 บาท โดยจะมีการนัดรับส่งของกันในพื้นที่ภาคเหนือ จากนั้นจะมาโพสต์ขายในทวิตเตอร์ จนมีผู้สั่งซื้อมากกว่า 30 ครั้ง มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 3 แสนบาท จึงได้จับกุมตัวนายกฤษฎาฯ พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการขยายผลติดตามจับกุมทั้งผู้ขายและผู้ซื้อต่อไป
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนถึงพี่น้องประชาชน ว่าการซื้อ-ขายธนบัตรปลอม หรือการเปิดเพจขายธนบัตรปลอม มีความผิดตามกฎหมายอาญา โดยผู้ทำธนบัตรปลอมต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท ส่วนผู้ที่ใช้โดยรู้ว่า เป็นธนบัตรปลอมต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสามแสนบาท ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทั่วไปควรเพิ่มความระมัดระวัง และตรวจสอบธนบัตรก่อนรับ โดยหากเป็นธนบัตรจริงจะสามารถสังเกตเห็นลวดลายบนธนบัตรเคลื่อนไหวได้ และหากยกส่องดูจะเห็นลายน้ำและแถบสีที่เป็นเส้นตรง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย