ทลายเครือข่ายบาการ่าออนไลน์-ไลฟ์สดผ่านกลุ่มไลน์ ปูพรมตรวจค้นเพิ่มเติม 12 จุด จับกุมผู้ต้องหากว่า 13 ราย

ทลายเครือข่ายบาการ่าออนไลน์-ไลฟ์สดผ่านกลุ่มไลน์ ปูพรมตรวจค้นเพิ่มเติม 12 จุด จับกุมผู้ต้องหา 13 ราย พบเงินหมุนเวียนกว่า 150 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้จับกุมผู้ต้องหา 13 ราย โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน (บาการ่า) ออนไลน์ และร่วมกันฟอกเงิน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำการฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราเหตุทีได้มีการสมคบกัน” สถานที่ตรวจค้นจับกุม 12 จุดตรวจค้น ในพื้นที่ จ.กรุงเทพ จ.นนทบุรี และ จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 เม.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. ได้จับกุมเครือข่ายการพนันออนไลน์ “สีลม-พระราม 2” สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ทั้งหมด 13 คน โดยเครือข่ายการพนันออนไลน์นี้มีพฤติการณ์ลักลอบจัดให้มีการเล่นพนัน “ไพ่บาการ่า” ผ่านกลุ่มไลน์ โดยจัดให้มีการไลฟ์สดถ่ายทอดการเล่นพนันจาก 2 สถานที่ ย่านสีลม และย่านพระราม 2 กรุงเทพมหานคร

มีการเปิดรับลูกค้า VIP เข้ามาเดิมพันเอาทรัพย์สินกับเจ้ามือกันในกลุ่มไลน์ ในครั้งนั้นสามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 13 ราย พร้อมกับอุปกรณ์การพนัน เช่น โต๊ะไพ่บาการ่า สำรับไพ่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การถ่ายทอดสด ฯลฯ โดยภายหลังจากการจับกุมในครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลเพื่อหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังเครือข่ายการพนันออนไลน์ดังกล่าว

จากการสืบสวนขยายผลพบว่า มีกลุ่มผู้ต้องหาเป็นบุคคลที่เป็นทั้งเจ้าของเครือข่าย หุ้นส่วน และหัวหน้าพนักงาน จึงได้นำหลักฐานขออนุญาตศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหากลุ่มนี้ จำนวน 13 ราย และขอหมายค้นสถานที่ที่ใช้ในการถ่ายทอดสดการเล่นพนันออนไลน์ สำนักงาน และสถานที่เกี่ยวข้องอีกจำนวน 12 จุด

จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป., บก.ปคบ., บก.ปทส. และ บก.ปอศ. เปิดปฏิบัติปูพรมตรวจค้น 12 จุด ในพื้นที่กรุงเทพ นนทบุรี และสมุทรปราการ สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้ง 13 ราย

พร้อมทั้งได้ตรวจยึดของกลางจำนวนมาก อาทิ โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, สมุดบัญชีธนาคาร และบัตรเอทีเอ็ม/บัตรเครดิต เป็นต้น และได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ ตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อาทิ เงินสดประมาณ 1,000,000 บาท, อาวุธปืนยาว จำนวน 2 กระบอก, อาวุธปืนสั้น จำนวน 3 กระบอก, รถยนต์ จำนวน 5 คัน, นาฬิกาหรู, ทองคำแท่ง, สร้อยคอทองคำ, แหวน, เครื่องประดับต่างๆ รวมถึงโฉนดที่ดิน, กระเป๋าแบรนด์เนม, ตู้เซฟ และพระเครื่อง มากกว่า 360 องค์ ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลพบว่าเครือข่ายการพนันดังกล่าวภายในระยะเวลา 3 เดือน มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 150 ล้านบาท

สอบถามคำให้การผู้ต้องหากลุ่มที่เป็นพนักงานเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน “ไพ่บาการ่า” ผ่านการไลฟ์สดในกลุ่มไลน์จริง โดยพนักงานมีทั้งทำหน้าที่เป็นแอดมิน คอยดูแลกลุ่มลูกค้า, ตอบคำถามลูกค้ากรณีที่มีปัญหา, ดูแลเรื่องการเงิน และดูแลเรื่องการถ่ายถอดสดการเล่นพนัน ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของ หรือหุ้นส่วนในเครือข่ายการพนันออนไลน์ ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา