ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ในฐานะรับผิดชอบดูแลกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว) ในเรื่องของการสร้างความรู้และการรับมือกับเหตุการณ์วิกฤต กรณีมือปืนยิงกราด เนื่องในปัจจุบันมีการก่อเหตุอาชญากรรมในลักษณะดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา หรือ เหตุกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู จึงจำเป็นที่จะต้องถ่ายทอดความรู้ สร้างแนวความคิด ทักษะ และวิธีการปฏิบัติตาม SOP เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนเมื่อเผชิญเหตุ
วันนี้ 27 เมษายน 2566 พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) ประธานในพิธี พร้อมด้วย พ.ต.อ. ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.1 บก.ทท.1, พ.ต.ท.ณัฐพล คนหลัก รอง ผบก.1 บก.ทท.1, พ.ต.ต.กฤตพร แสงสุระ สว.กก.1 บก.ทท.1, พ.ต.ต.วรกิจ วรรณสอน สว.ส.ทท 3 กก.1 บก.ทท.1 เข้าร่วมในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการเพิ่มและพัฒนาศักยภาพการใช้ยุทธวิธีตำรวจเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้ายกรณีมือปืนยิงกราด และการบริหารเหตุการณ์วิกฤต กรณีมือปืนยิงกราด (Active Shooter)
สำหรับโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการเพิ่มและพัฒนาศักยภาพการใช้ยุทธวิธีตำรวจเกี่ยวกับ การต่อต้านการก่อการร้าย กรณีมือปืนยิงกราด และการบริหารเหตุการณ์วิกฤตกรณีมือปืนยิงกราด (Active Shooter) เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และผู้บังคับบัญชา ประกอบกับเหตุการณ์ การก่ออาชญากรรมใน ปัจจุบัน มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในหลายๆเหตุการณ์จะพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อเข้า เผชิญเหตุ ไม่สามารถเข้าระงับเหตุเบื้องต้น ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงบานปลายขึ้นได้ ต้องขอ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วยอาวุธ และยุทธวิธีพิเศษ (SWAT) มักไม่ทราบขั้นตอนปฏิบัติ เมื่อมีเหตุการณ์ยังตัวประกัน หรือเหตุที่ต้องแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด ผู้ปฏิบัติยังไม่มีความมั่นใจ กล้าตัดสินใจ จึงได้จัดโครงการดังกล่าวข้างต้น โดยวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ดังนี้
1.เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทราบถึงความหมายของ Active Shooter Thattent
2.เพื่อเพิ่มและพัฒนาศักยภาพการใช้ยุทธวิธีตำรวจ เกี่ยวกับการบริหารเหตุการณ์วิกฤติ กรณีมือปืนยิงกราด (Active Shooter) ให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรม
3.เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม/สามารถปฏิบัติได้เมื่อเผชิญเหตุเป็นคนแรก ตอบสนองต่อเหตุการณ์แก้ไขวิกฤติการณ์เหตุมือปืนยิงกราดได้
4.เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทราบวิธีการเอาตัวรอด จากเหตุการณ์บุกยิงกราด เมื่อถึงเวลา สามารถทำได้ภายใต้สถานการณ์ที่มีความกดดันสูง เพราะเวลาและชีวิตตัวประกันสำคัญที่สุด เหนือสิ่งอื่นใดคือชีวิตของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติที่สำคัญเช่นกัน ความหมายคือต้องปลอดภัยทั้งหมด จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการฝึกยุทธวิธีในด้านต่างๆ อยู่เสมอ เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น และสร้างความเชื่อมั่น ให้กับประชาชน ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ซึ่งการอบรมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากวิทยากรภายในกองกำกับการ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการ ปฏิบัติการพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมเป็นวิทยากร มีผู้เข้ารับการฝึกอบรม เป็นข้าราชการตำรวจในสังกัด จำนวน 3 รุ่น โดย รุ่นที่ 1 จำนวน 28 นาย ซึ่งในแต่ละรุ่นใช้เวลาในการฝึกรุ่นละ 2 วัน รวมระยะเวลาการอบรม จํานวน 6 วัน การฝึกประกอบด้วยการฝึกทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ อาทิเช่น การป้องกันการโจมตี แนวคิดด้านยุทธวิธี การยิงปืน ระบบบัญชาการเหตุการณ์เบื้องต้น ความปลอดภัยและตำแหน่งอาวุธ การบุกค้นขณะประตูถูกปิด รวมถึงการฝึกทักษะการฝึกซ้อมภายใต้สถานการณ์เสมืองจริง , ฝึกสถานการณ์จำลองขนาดเล็กและขนาดใหญ่